ขอยกตัวอย่างจากหนังสือเรื่อง "อยู่แต่ในกล่อง คุณจะรู้อะไร" นี้ ให้แง่คิดและมุมมองที่แตกต่างออกไปจากที่คุณมองแน่นอนครับ
สาระสำคัญที่คุณควรเรียนรู้และไม่ควรมองข้าม

การมองคนมีอยู่แค่ 2 แบบเท่านั้น คือ การมองคนอื่นเป็นคน มองด้วยใจที่เป็นมิตร มองว่าเขาเหล่านั้นมีความหวัง ความต้องการ ความเศร้า ความห่วงใย และความกลัวเหมือนกับคุณ หรือ การมองคนอื่นเป็นวัตถุสิ่งของ มองด้วยใจที่เป็นศัตรู มองว่าเขาเหล่านั้นเป็นสิ่งกีดขวาง เป็นเครื่องมือ ไร้ความหมายต่างๆนาๆ ลองคิดดูว่าคนที่ถูกคุณมอง เขาจะมีความรู้สึกหรือไม่ว่าคุณมองเขาแบบไหน แน่นอนว่าเขาสนใจว่าจะถูกมองในฐานะคนคนหนึ่งหรือวัตถุชิ้นหนึ่งกันแน่ ดังนั้นการมองคนเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ไม่ว่าจะกับคนในครอบครัว เพื่อนๆ ผู้คนที่ทำงาน คนรอบตัว หรือคนที่คุณเพิ่งรู้จัก แม้ว่าพฤติกรรมของคุณจะแสดงออกว่าเป็นมิตรแค่ไหน แต่หากคุณมีใจที่เป็นศัตรู เขาเหล่านั้นก็สามารถสัมผัสความรู้สึกนี้ได้นะครับ

มาดูกล่องที่เรามองไม่เห็นกันครับ มี 4 กล่อง
1. กล่องแห่งความเหนือกว่า เราเริ่มมองตัวเอง เหนือกว่า เก่งกว่า ทำถูก และเราเริ่มมองผู้อื่น ด้อยกว่า ไร้ความสามารถ ทำผิดเสมอ เราเริ่มมีความรู้สึก หงุดหงิด ดูถูก ไม่แยแส เราเริ่มมองโลก มีแต่การแก่งแย่งชิงดี มีแต่ปัญหา
2. กล่องแห่งความคู่ควร เราเริ่มมองตัวเอง…น่าสรรเสริญ ถูกปฏิบัติแย่ๆเป็นผู้เคราะห์ร้าย ไม่มีใครเห็นหัว เราเริ่มมองผู้อื่น…ทำพลาด ปฏิบัติแย่ๆ ไม่สำนึกบุญคุณ เราเริ่มมีความรู้สึก…มีสิทธิ์ ถูกกีดกัน ขุ่นเคือง เราเริ่มมองโลก…ไม่ยุติธรรม โหดร้าย เป็นหนี้ฉัน
3. กล่องแห่งภาพลักษณ์ เราเริ่มมองตัวเอง…อยากดูดี เสแสร้ง เราเริ่มมองผู้อื่น…ชอบตัดสินคนอื่น คุกคาม เราเริ่มมีความรู้สึก…วิตกกังวล กลัว อยากให้คนสนใจ เครียด รับไม่ไหว เราเริ่มมองโลก อันตราย เฝ้าจับตาดู ตัดสินฉัน

กล่องแห่งความด้อยกว่า เราเริ่มมองตัวเอง…ไม่ดีเท่า ต่ำต้อย โชคร้าย เราเริ่มมองผู้อื่น…ได้เปรียบ มีอภิสิทธิ์ โชคดี
เราเริ่มมีความรู้สึก…อับจนหนทาง อิจฉา ขมขื่น หดหู่ เราเริ่มมองโลก…อยู่ยาก ต่อต้านฉัน มองข้ามฉัน
หากถามว่าตัวคุณเองกำลังสร้างกล่องอะไรขึ้นมา เป็นไปที่ที่คุณจะมีมากกว่าหนึ่งกล่องครับ หรืออาจมีทุกกล่องอยู่ในตัวคุณในสถานการณ์ที่แตกต่างกันไปก็ว่าได้ มาถึงตรงนี้ทุกคนคงสามารถวิเคราะห์ตัวเองได้ระดับหนึ่งแล้ว จากนั้นหนังสือเล่มนี้ได้เผยเคล็ดลับของการพาตัวเองออกจากกล่องครับ