| |
| |
ความคิดเห็นที่: 1 |
|
| |
|
|
|
ข่าวดี ครับ ปีภาษี 2556 จะให้ เกณฑ์ใหม่
ที่มา : นสพ.มติชน
ประชาชาติธุรกิจ 06 พ.ย. 2556
โครงสร้างภาษีใหม่ อัตราเก็บภาษีลดลง เล็งลดหย่อนภาษีเพิ่ม
กิตติรัตน์ เตรียมชง ครม. ออกพระราชกฤษฎีกาปรับโครงสร้างภาษีใหม่ให้ทันภายใน พ.ย. นี้ เพื่อให้มีผลบังคับใช้ในปีภาษี 56 เผยโครงสร้างใหม่เก็บภาษีลดลงจากเดิม
เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2556 นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในเดือนนี้ กระทรวงการคลังจะเสนอให้ที่ประชุม ครม. พิจารณาเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) แก้ไขอัตราโครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาฉบับใหม่ ให้มีผลบังคับใช้ได้ทันในปีภาษี 56 นี้ หลังจากที่พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร ตามมาตรการปรับปรุงโครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเพื่อส่งเสริมความเป็นธรรมและให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ ที่ผ่านการเห็นชอบจาก ครม. แล้ว ยังไม่สามารถเข้าสู่กระบวนการพิจารณาจากรัฐสภาได้ทัน
โดย นายกิตติรัตน์ กล่าวว่า การเสนอร่าง พ.ร.ฎ. นี้ ไม่ได้แก้ไขรายละเอียดอะไรเพิ่มเติม ยังคงใช้รูปแบบเดิมที่ ครม. เห็นชอบไปแล้ว โดยจะเป็นการผ่อนผันการเก็บภาษีในอัตราที่ต่ำลง มั่นใจว่าจะผ่านความเห็นชอบ และสามารถบังคับใช้ทันในปีภาษี 56 อย่างแน่นอน
ทั้งนี้ กระทรวงการคลัง รายงานว่า การปรับปรุงบัญชีอัตราภาษีเงินได้ครั้งนี้ จะมีผลกระทบต่อรายได้ภาษีอากรในปีงบ 56 ประมาณ 27,000 ล้านบาท แต่จะมีส่วนช่วยกระตุ้นการบริโภค และส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว โดยร่าง พ.ร.ฎ. ดังกล่าว ได้กำหนดให้บุคคลธรรมดาที่มีรายได้สุทธิในจำนวนต่าง ๆ เสียภาษีตามอัตราต่อไปนี้
ไม่เกิน 150,000 บาท ได้รับการยกเว้นภาษี
ตั้งแต่ 150,001-300,000 บาท เสียภาษีในอัตรา 5%
ตั้งแต่ 300,001-500,000 บาท เสียภาษีในอัตรา 10%
ตั้งแต่ 500,001-750,000 เสียภาษีในอัตรา 15%
ตั้งแต่ 750,001-1,000,000 บาท เสียภาษีในอัตรา 20%
ตั้งแต่ 1,000,000-2,000,000 บาท เสียภาษีในอัตรา 25%
ตั้งแต่ 2,000,000-4,000,000 บาท เสียภาษีในอัตรา 30%
ตั้งแต่ 4,000,000 บาทขึ้นไป เดิมเสียในอัตรา 37%
สำหรับห้างหุ้นส่วนสามัญเสียในอัตรา 20% ขณะที่คณะบุคคลที่ไม่ใช่นิติบุคคล ให้เสียภาษีจากรายได้พึงประเมิน 20% เช่นกัน โดยให้มีผลบังคับใช้ในปีภาษี 56 ที่จะยื่นในปี 57 เป็นต้นไป
นอกจากนี้ นายกิตติรัตน์ ยังกล่าวว่า ในส่วนของข้อเสนอให้เพิ่มวงเงินรายจ่ายเพื่อหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จากเดิมที่หักค่าใช้จ่ายส่วนตัวได้ไม่เกิน 60,000 บาทต่อปี เพิ่มเป็น 120,000 บาทต่อปี เพื่อใช้หักจากรายได้ประจำปีนั้น ยังไม่ได้เสนอให้ ครม. พิจารณา เพราะต้องพิจารณาความเหมาะสมก่อน
|
|
| |
|
|
 |
By: ทวีศักดิ์ สพป. (101.51.254.*) 18/11/2013 07:01 PM |
 |
|
|
| |
| |
ความคิดเห็นที่: 2 |
|
| |
|
|
|
วิชาชีพครู สรรพากร ถือว่า เป็นวิชาชีพที่รายได้สูง และมีวิทยฐานะและค่าตอบแทน เทียบเท่ากับ วิชาชีพชั้นสูง เช่น แพทย์ วิศวกร ผู้พิพากษา จึงต้องเสียภาษี มากกว่ากลุ่มอื่น ครับ |
|
| |
|
|
|
By: ทวีศักดิ์ สพป. (101.51.254.*) 18/11/2013 07:22 PM |
|
|
|
| |
| |
ความคิดเห็นที่: 3 |
|
| |
|
|
|
ขอขอบคุณมากครับท่าน อ.ทวีศักดิืให้ความกระจ่าง  |
|
| |
|
|
|
By: ขอขอบคุณรับ (101.51.47.*) 19/11/2013 08:24 AM |
|
|
|
| |
| |
ความคิดเห็นที่: 4 |
|
| |
|
|
|
ในส่วนของข้อเสนอให้เพิ่มวงเงินรายจ่ายเพื่อหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จากเดิมที่หักค่าใช้จ่ายส่วนตัวได้ไม่เกิน 60,000 บาทต่อปี เพิ่มเป็น 120,000 บาทต่อปี
อันนี้ขอลุ้นให้ผ่านนะครับ |
|
| |
|
|
|
By: ครู (101.51.34.*) 19/11/2013 09:51 AM |
|
|
|
| |
| |
ความคิดเห็นที่: 5 |
|
| |
|
|
|
มติ ครม. ไม่ผ่าน เงื่อนไข นี้
ตามข่าว
ครม.ไฟเขียวร่าง พ.ร.ฏ.ปรับปรุงภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สาระสำคัญคือ ลดอัตราภาษีเงินได้จากอัตราสูงสุด 37% เหลือ 35% ทำให้เสียภาษีลดลง 5-50%...
เมื่อวันที่ 19 พ.ย. มีรายงานว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้มีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาเพื่อปรับปรุงอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จาก 5 ขั้นเป็น 7 ขั้น และลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากอัตราสูงสุด 37% เหลือ 35% โดยมีผลบังคับใช้สำหรับปีภาษี 2556 และปีภาษี 2557 ที่จะทำให้ผู้เสียภาษีนั้น เสียภาษีลดลง 5-50% โดยจะเป็นอัตราที่ใช้สำหรับยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2557
ทั้งนี้ เมื่อทดลองคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมในอัตราใหม่ปรากฏว่า ยิ่งมีรายได้น้อยยิ่งเสียภาษีใน***ส่วนที่น้อยลง เช่น หากปี 2556 ผู้เสียภาษีมีเงินเดือน 30,000 บาท จะทำให้มีรายได้ทั้งปี 360,000 บาท และสามารถหักค่าใช้จ่ายได้สูงสุด 60,000 บาท ทำให้มีเงินได้สุทธิ 300,000 บาท เมื่อนำมาคำนวณในอัตราภาษีใหม่ เงินได้ขั้นแรก 0 - 150,000 บาท จะได้รับการยกเว้น จากนั้น ขั้นถัดมา 150,001 - 300,000 บาท อัตราใหม่เสียภาษี 5% ทำให้ต้องจ่ายภาษีอยู่ที่ 7,500 บาท แต่หากเป็นอัตราภาษีเดิมจะจ่ายภาษี 10 % ทำให้ต้องจ่ายภาษี 15,000 บาท ดังนั้น จะเห็นได้ว่าภาระภาษีจึงลดลงถึง 50 % สำหรับผู้ที่มีเงินเดือน 30,000 บาท
มีรายงานเพิ่มเติมว่า กรณีมีเงินเดือนมากกว่านั้น เป็น 60,000 บาท รายได้ทั้งปีอยู่ที่ 720,000 บาท หักค่าใช้จ่าย 60,000 บาท เหลือเงินได้พึงประเมิน 660,000 บาท เมื่อนำมาคำนวณในอัตราภาษีใหม่ เงินได้ขั้นแรก 0 - 150,000 บาท ได้รับการยกเว้น จากนั้น ขั้นถัดมา 150,001 - 300,000 บาท อัตราใหม่เสียภาษี 5 % ทำให้ต้องจ่ายภาษี 7,500 บาท เงินส่วนที่เหลือนำมาคำนวณภาษีถัดมาอีกขั้นคือ 300,001 - 500,000 บาท เสียภาษี 10 % ต้องภาษีเพิ่มอีก 20,000 บาท และนำเงินได้ส่วนที่เหลือมาคำนวณภาษีขั้นถัดไปคือ 500,001 - 750,000 บาท ซึ่งมีเงินได้เหลือคำนวณในขั้นนี้เท่ากับ 160,000 บาท เสียภาษีใหม่ที่ 15% คิดเป็นเงิน 24,000 บาท ดังนั้นสำหรับผู้มีเงินเดือน 60,000 บาท มีภาระภาษีตามอัตราใหม่อยู่ที่ 7,500 + 20,000 + 24,000 เท่ากับ 51,500 บาท แต่หากคำนวณตามอัตราภาษีเดิมจะเสียภาษีเท่ากับ 67,000 บาท หรือประหยัดไป 23.13%
ทั้งนี้ กรมสรรพากรประเมินเบื้องต้น ว่าการจัดเก็บรายได้จะหายไป 2.7 หมื่นล้านบาท จากการปรับอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในครั้งนี้
http://www.thairath.co.th/content/eco/383954
แสดงว่า ยังลดหย่อนให้คนละ 60,000 บาท เท่าเดิม ครับ |
|
| |
|
|
|
By: ทวีศักดิ์ สพป. (101.51.36.*) 19/11/2013 09:09 PM |
|
|
|
|
