http://www.sisaketedu1.go.th/ | หน้าแรก
       

คุณครูในร่างของภารโรง
     
 

ภารโรงชาตินักการผู้เป็นมากกว่าภารโรง ชาติเป็นภารโรงตำแหน่งพนักงานพิมพ์ ระดับ 3 โรงเรียนวัดร้องอ้อ จ.เชียงใหม่ : เขต 1 ช่วงแรกที่ได้รับการบรรจุเข้าทำงานเป็นลูกจ้างประจำ ในตำแหน่งนักการภารโรง เมื่อ 20 ปีก่อน “ภารโรงชาติ” ยังมีความเชื่อเหมือนๆกับคนทั่วไป ชายร่างพอดีหล่อนิดนิดคิดว่าการเป็นภารโรงคืองานที่ต้อยต่ำ ไม่มีอะไรดี และหากชีวิตมีทางเลือกมากกว่านี้ภารโรงชาติคงไม่มีวันที่จะมาจับไม้กวาด ล้างส้วม ถูพื้นตามอาคาร หรือทำงานเยี่ยงกุลีให้เหนื่อยยาก จนถึงปัจจุบัน แรก ๆ ภารโรงชาติคิดว่ามันเป็นงานที่ต่ำต้อย ไม่มีเกียรติ ไม่มีคุณค่า เพื่อน ๆ ภารโรงชาติที่เรียนมาด้วยกัน แต่ละคนเขาเติบโตไปเป็นหมอเป็นครูกันหมด บางคนเป็นถึง ผอ. เป็นนายทหารนายตำรวจ อัยการ แต่ภารโรงชาติบ้านยากจนเลยไม่ได้เรียนต่อ ต้องมาตระเวนทำงานก่อสร้างอยู่ในตัวจังหวัดเชียงใหม่ รายได้มัน ก็ไม่ค่อยแน่นอน สุดท้ายเห็นเขาเปิดรับนักการภารโรงที่ สปอ.เมืองเชียงใหม่ ก็เลยมาสอบดูคิดว่าอย่างน้อยถ้าเราทำงานราชการมันก็น่าจะมั่นคงกว่าที่เป็นอยู่ปัจจุบัน(เวลาในขณะนั้น) ภารโรงชาติเป็นภารโรงเพียงคนเดียวของโรงเรียนวัดร้องอ้อ อ. เมือง จ.เชียงใหม่ บนพื้นที่ 7 ไร่ 2 งาน 34 ตารางวา พร้อมด้วยอาคารเรียนอีก 7 หลัง ชายวัย 43 ปี ต้องทำงานทุกอย่างตั้งแต่งานเล็กงานน้อยอย่างเปิด-ปิดประตูโรงเรียน กวาดขยะ ตัดหญ้า ยกของแบกหามของ ล้างส้วม ไปจนถึงงานใช้ฝีมืออย่างการเป็นช่าง เดินสายไฟฟ้า ซ่อมก๊อกน้ำ ซ่อมคอมพิวเตอร์เครื่องปริ้นเตอร์ ซ่อมติดตั้งสัญญาณดาวเทียมสัญญาณอินเตอร์เน็ต ฯลฯ เรียกได้ว่าหากทางโรงเรียนมีปัญหาอะไร คนแรกที่ทุกคนนึกถึงก็คือ ภารโรงชาติ ทุก ๆ วันภารโรงชาติจะตื่นนอนเปิดโรงเรียนในตอนตีสี่ครึ่งหรือตีห้าของทุกวัน เขาจะมาทำงานเป็นคนแรกและกลับบ้านเป็นคนสุดท้ายเช่นนี้เสมอการใช้เวลากว่าครึ่งค่อนชีวิตอยู่กับการทำงานเพียงลำพัง ทำให้ภารโรงชาติเริ่มเกิดความคุ้นเคยชิน และรู้สึกว่าโรงเรียนคือบ้านหลังที่สองของเขา นักการร่างหล่อพอประมาณต้องการให้บ้านหลังใหม่ของตัวเองสวย สะอาด งดงามน่าอยู่ เขาค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงปรับทัศนคติที่มีต่อการงานจากที่เคยคิดว่าการเป็นภารโรงคืออาชีพที่ไร้เกียรติไร้ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ไม่มีสิทธิ ไม่มีเสรีภาพ ไม่มีความเสมอภาค ภารโรงชาติกลับค้นพบความสุข และมองเห็นคุณค่าว่ามันคืองานที่มีความสำคัญเช่นกัน หากตั้งใจจะทำให้ดีเหมือนภารโรงชาติเป็นเฟื่องตัวเล็กๆที่ช่วยขับเคลื่อนนาฬิกาให้เดินได้ฉันใดก็เหมือนการขับเคลื่อนการพัฒนาหน่วยงานฉันนั้น “เราว่างานทุกงานทุกอาชีพมันมีคุณค่าในตัวของมันนะ ถ้าเราตั้งใจทำหน้าที่ของเราให้เต็มที่มันมีประโยชน์ทั้งหมดแหละ อย่างงานภารโรงนี่ก็เหมือนกัน ถ้าเราทำแบบเช้าชามเย็นชาม โรงเรียนมันก็คงไม่เป็นโรงเรียนมีแต่ความสกปรก แต่หากเราเอาใจใส่ทำให้มันเป็นเหมือนกับบ้านของเรา ทุกอย่างมันก็จะดีทุกวันนี้เวลามีงานอะไรที่เกี่ยวกับโรงเรียนอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ช่วยเหลือคุณครูหรือเด็ก ๆ ได้บริการทำให้หมดไม่มีเกี่ยง” ภารโรงอย่างชาติไม่ได้สนใจแค่เรื่องราวของความสะอาดหรือการชำรุดทรุดโทรมของอุปกรณ์ภายในโรงเรียนหากแต่ยังก้าวไปไกลกว่านั้นด้วยการนำนักเรียนมาทำกิจกรรมในด้านเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ นอกเหนือไปจากเป็นช่างซ่อมคอมพิวเตอร์ประจำสถาบัน พ่วงด้วยหน้าที่ดูแลเด็ก ๆ ในกรณีที่ครูยังมาไม่ถึงโรงเรียนทุกวันนี้นักเรียนทุกคนในโรงเรียนวัดร้องอ้อ ตั้งแต่ชั้น ป.1 ถึง ป. 6 จะมีคาบเรียนวิชาคอมพิวเตอร์บรรจุอยู่ในตารางเรียนทุก ๆ สัปดาห์ ไม่ต่างอะไร จากวิชาคณิตศาสตร์ ภาษาไทย หรือภาษาอังกฤษ โดยครูผู้สอนก็คือคนคนเดียวกับที่เดินถูพื้นตามอาคาร ล้างส้วม กวาดขยะในตอนเช้า ตัดหญ้าในสนามเวลากลางวัน ฯลฯทุก ๆ วัน คุณครูในร่างของภารโรงผู้อ่อนน้อมจะทำการสอนเด็ก ๆ ให้รู้จักกับการใช้คอมพิวเตอร์ตั้งแต่เริ่มต้นเปิดปิดการใช้เม้าล์แป้นพิมพ์กระทั้งเข้าสู่การใช้โปรแกรม Microsoft Office ทั้ง MS word,powerpoint,Excel Anti-virus ติดเครื่องเพื่อป้องกันไวรัสที่ทำให้เกิดปัญหาต่างๆได้ เช่น Eset Nod32,Avira Antivir,Kerparsky,AVG,McAfee,Norton และอื่นๆอีกมากมาย โปรแกรมดูหนัง ฟังเพลง เพื่อความบันเทิงต่างๆ เช่น PowerDVD Winamp โปรแกรมดูรูปภาพ ตกแต่งรูปภาพ ถ้าใครเป็นนักแต่งภาพต้องมีโปรแกรมชนิดนี้ เช่น ACD See,Photoshop,Photoscape โปรแกรมช่วยดาวน์โหลด สำหรับนักดาวน์โหลด เช่น Flashget,Orbit,Internet download manager,Utorrent โปรแกรมเสริมหรือช่วยจัดการกับระบบคอมพิวเตอร์ของเรา เช่น CCleaner,TuneUp Utilities โปรแกรมอ่านไฟล์หรือแตกไฟล์ต่างๆ เช่น Adobe Acrobat,Foxit Reader,Winzip.7-Zip โปรแกรม write CD หรือจัดการกับ CD ต่างๆ เช่น Nero,Ashampoo โปรแกรมตัดต่อวีดีโอ วีชีดี ทำเว็บไซร์ ภารโรงชาติทำงานเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งบทบาทนอกเหนือไปจากภาระหน้าที่เดิมซึ่งหนักหน่วงอยู่แล้วนั้นยิ่งทำให้ภารโรงชาติมีเวลาส่วนตัวน้อยลงกว่าเก่า หลายครั้งหลายคราที่ลูกสาวและภรรยาของเขาต้องมาช่วยทำงานในโรงเรียนเมื่อว่างจากการทำงานอย่างไรก็ตามแม้จะมีหน้าที่การงานให้ต้องเหนื่อยหนักกันมากขึ้น แต่ภารโรงชาติและครอบครัวก็ไม่ได้หวังสิ่งตอบแทน ในทางกลับกันเขายังขันอาสาที่จะสละทรัพย์สินและความสุขส่วนตัวร่วมกับเพื่อน ๆ ในวิชาชีพเดียวกันเพื่อตอบแทนโรงเรียนอีกหลาย ๆ แห่งใน จ. เชียงใหม่อีกด้วย “เรารวมตัวกับเพื่อน ๆ ภารโรง ตั้งกลุ่มชมรมสมาคมนักการขึ้น ซึ่งถ้าแต่ละโรงเรียนเดือดร้อนหรือมีงานอะไรที่ต้องทำต้องใช้กำลังคน เราก็จะไปช่วยกันอย่างที่ผ่านมา ในฐานะภารโรงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง สิ่งที่ภารโรงชาติสร้างขึ้นได้ก่อประโยชน์ยิ่งกว่าตำแหน่งหน้าที่ของเขามากมายนัก ไม่น่าเชื่อว่าคนคนหนึ่งที่เคยดูแคลนอาชีพตัวเองว่าไร้ค่าไร้ความหมาย มาวันนี้ชายวัย 43 จะเป็นลูกจ้างประจำที่ใครหลายคนยากที่จะปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเขาภารโรงชาติทำงานทุกอย่างด้วยความรัก และแม้ว่าจะเหนื่อย ดูเหมือนตลอดเวลา 20 กว่า ปี ภารโรงชาติได้เอาหัวใจของตัวเองฝังรากไว้บนผืนดินของโรงเรียนวัดร้องอ้อและใช้ตอบแทนพระคุณแผ่นดินเรียบร้อยแล้ว.................... ภารโรงชาติ

 
     
      By : คุณครูในร่างของภารโรง  Mail to คุณครูในร่างของภารโรง    (223.206.111.*)  15/06/2013 04:24 PM  
 
 
 
  ความคิดเห็นที่: 1  
     
  ลองตั้งใจอ่านจนจบ....ขอบคุณสำหรับบทความดียิ่งครับ.  
     
    By: ครูบ้านนา      (223.207.162.*) 16/06/2013 01:38 PM
 

 
  ความคิดเห็นที่: 2  
     
  โอ๊ย ข้อยอยากอายภารโรงชาติเด๊...  
     
    By: ข้อย      (115.67.227.*) 19/06/2013 07:34 AM
 

 
  ความคิดเห็นที่: 3  
     
  ถ้าทุกอย่างเป็นความจริง มันก็เป็นสิ่งที่ดี เพราะคุณได้รับเงินเดือนจากภาษีของประชาชน แต่ถ้าสิ่งที่คุณพรำ่ออกมาทั้งหมดไม่เป็นความจริงหรือเป้นความจริงน้อยมาก ก็น่าจะเป็นสิ่งที่น่าละอายต่อตนเองที่โกหกแม้กระทั่งตัวเองไม่พอยังเที่ยวโกหกคนอื่น และยังใส่ร้ายคนอื่นด้วยที่สำคัญการเลียแข้งเลียขาผู้บริหารของคุณได้ข่าวว่าขึ้นชื่อนัก ที่สำคัญผมว่าผมรู้จักคุณดีพอสมควร  
     
    By: ประชาชน  Mail to ประชาชน    (118.172.162.*) 12/11/2013 02:43 PM
 

 
  ความคิดเห็นที่: 4  
     
  ความคิดเห็น1และ2 ครับ ผมว่าถ้าอยากรู้เรื่องนี้ลองเช็คเรื่องราวที่นายชาติเขียนดูไปยังครูของโรงเรียนร้องอ้อดูนะครับ/ อย่าเพิ่งไปอายคนอย่างเค้าครับ
 
     
    By: ประชาชน  Mail to ประชาชน    (118.172.162.*) 12/11/2013 02:47 PM
 

 
  ความคิดเห็นที่: 5  
     
  ความคิดเห็น1และ2 ครับ ผมว่าถ้าอยากรู้เรื่องนี้ลองเช็คเรื่องราวที่นายชาติเขียนดูไปยังครูของโรงเรียนร้องอ้อดูนะครับ/ อย่าเพิ่งไปอายคนอย่างเค้าครับ
 
     
    By: ประชาชน  Mail to ประชาชน    (118.172.162.*) 12/11/2013 02:47 PM
 


     
 
       
ชื่อ ::
  *
  รหัส ::   (เฉพาะสมาชิก)
 
อีเมล์ ::
  (สมาชิกไม่ต้องกรอก)
     
Insert Bold text Insert Italicized text Insert Underlined text Insert Centered text Insert a Hyperlink Insert Email Hyerplink Insert an Image Insert Code Formatted text Insert Quoted text
 
รายละเอียด ::
  *
  ใส่รูปแสดงอาการ ::   Confused Idea Smile Wink Coool Love It Cry Devil Kiss Yum Big Grin Smiley Razz Brow
Blue Smile Ek Frusty Eek Weird Look Bawling Angry Fire Red Face Eplus Uh Oh Crying Sinister Tongue Roll Eyes
 
รูปประกอบ ::
  ไม่เกิน 50 Kb
       
     
 
     
 
 Search Word:
Support by http://www.sisaketedu1.go.th
This programe support PHP 4, MySQL Developer by NOKESTUDIO In Thailand
NINEBOARD Vol 3.0 Copyright © 2001-2002 NINETO SOLUTION All Rights Reserved.