ในช่วงเดือนกันยายน 2555 เป็นช่วงของวิกฤตกาลที่เกิดวิกฤตการณ์ด้านบุคลากรในโรงเรียนของผม เพราะจากครู 4 คน เหลือเพียง 2 คน (รวมผู้บริหาร) เนื่องจากโครงการครูคืนถิ่นและการเกษียณ บางวันผมต้องอยู่ที่โรงเรียนคนเดียวเนื่องจากครูต้องไปอบรมบ้างเป็นวิทยากรบ้าง ทำให้มีความรู้สึกว่ามันช่างน่าเวทนาตัวเองอะไรขนาดนี้ ทั้งงานธุรการการเงินและพัสดุ งานอาหารกลางวัน การเรียนการสอน การดูแลนักเรียน ตลอดจนงานความสัมพันธ์กับชุมชน ทุกอย่างอยู่ในสมองและแรงกายของผู้อำนวยการที่มีชื่อฟังดูแล้วน่าจะสบาย แต่ทุกอย่างมันตรงกันข้าม จากสภาวการณ์ดังกล่าวที่เกิดจากเหตุที่ไม่อาจสามารถควบคุมหรือกำหนดเองได้ด้วยอำนาจวาสนาของตำแหน่งที่ถูกสมมุติขึ้นให้ฟังแล้วดูดี ทั้งที่จริงแล้วเป็นเหตุที่ก่อให้เกิดทุกข์ที่ต้องดิ้นรนหาวิธีแก้ไขตามสถานะของความเป็นผู้บริหารโรงเรียนขนาดจิ๋วอันจำกัดด้วยงบประมาณ ทำให้ผมได้เกิดความคิดที่จะมองหาทรัพยากรที่มีอยู่ใกล้ตัวเองที่สุดเพื่อนำมาใช้ประโยชน์ในการบริหารจัดการในการชดเชย และบรรเทาปัญหาการขาดแคลนครู และผมก็ได้พบว่าขณะนี้ผมได้ค้นพบทรัพยากรสิ่งใหม่ที่วิเศษสุดเท่าที่ผมเคยมีมา ที่จะช่วยแก้ปัญหา และพัฒนาคุณภาพการศึกษาในโรงเรียนให้ดีขึ้น ซึ่งขณะนี้ผมก็กำลังทดลองใช้ทรัพยากรนี้ช่วยงานผมอยู่ทุกวัน และเมื่อประเมินผลในด้านความตั้งใจในการทำงาน และผลของความพึงพอใจของผมเองที่มีต่อการทำงานของเหล่าทรัพยากรนั้นจัดให้อยู่ในระดับที่ วิเศษสุด ทรัพยากรที่ว่านั้นก็คือ นักเรียนนั่นเองแหละครับ |