ชื่อเรื่อง การสร้างชุดการสอนกิจกรรมแนะแนว เพื่อพัฒนาและเสริมสร้างประสิทธิภาพการเรียนและอาชีพ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
ผู้วิจัย นางสาวลัดดาวัลย์ คมใส
โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 29 จังหวัดศรีสะเกษ ปีการศึกษา 2552
บทคัดย่อ
การพัฒนาและเสริมสร้างประสิทธิภาพการเรียนและอาชีพ เป็นสิ่งสำคัญในการจัดการศึกษาของนักเรียนผู้ด้อยโอกาสทางการศึกษา และเพื่อให้นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจ และสามารถพัฒนาตนเองให้เป็นที่ต้องการของสังคม ผู้วิจัยจึงมีความสนใจที่จะสร้างชุดการสอนกิจกรรมแนะแนวโดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1) เพื่อการสร้างชุดการสอนกิจกรรมแนะแนวเพื่อพัฒนาและเสริมสร้างประสิทธิภาพทางการเรียนและอาชีพ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 2) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลชุดการสอนกิจกรรมแนะแนวเพื่อพัฒนาและเสริมสร้างประสิทธิภาพทางการเรียนและอาชีพ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่เรียนด้วยชุดการสอนกิจกรรมแนะแนวเพื่อพัฒนาและเสริมสร้างประสิทธิภาพทางการเรียนและอาชีพ 4) เพื่อการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อการเรียนด้วยชุดการสอนกิจกรรมแนะแนวเพื่อพัฒนาและเสริมสร้างประสิทธิภาพทางการเรียนและอาชีพ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 ที่กำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่2 ปีการศึกษา 2552 จำนวน 30 คน ได้มาโดยการสุ่มอย่างง่าย (Simple random sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย 1) ชุดการสอนพร้อมแผนการจัดกิจกรรมแนะแนวเพื่อพัฒนาและเสริมสร้างประสิทธิภาพทางการเรียนและอาชีพ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 16 ชุด 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องการจัดกิจกรรมแนะแนวเพื่อพัฒนาและเสริมสร้างประสิทธิภาพทางการเรียนและอาชีพ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ มีค่าความยากง่ายตั้งแต่ 0.21 ถึง 0.88 มีอำนาจจำแนก ตั้งแต่ 0.25 ถึง 0.80 และค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบทั้งฉบับเท่ากับ 0.97 3) แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อการเรียนด้วยชุดการสอนกิจกรรมแนะแนวเพื่อพัฒนาและเสริมสร้างประสิทธิภาพทางการเรียนและอาชีพ เป็นชนิดมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน 15 ข้อ มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.88 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสมมติฐานโดยใช้ t-test (Dependent Samples)
ผลการวิจัยปรากฏดังนี้
1. ชุดการสอนกิจกรรมแนะแนวเพื่อพัฒนาและเสริมสร้างประสิทธิภาพทางการเรียนและอาชีพ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีประสิทธิภาพ 85.07/83.21 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้คือ 80/80
2. ชุดการสอนกิจกรรมแนะแนวเพื่อพัฒนาและเสริมสร้างประสิทธิภาพทางการเรียนและอาชีพ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่พัฒนาขึ้นมีค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.70 แสดงว่านักเรียนมีความก้าวหน้าในการเรียนร้อยละ 70
3. นักเรียนที่เรียนด้วยชุดการสอนกิจกรรมแนะแนวเพื่อพัฒนาและเสริมสร้างประสิทธิภาพการเรียนและอาชีพ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยชุดการสอนกิจกรรมแนะแนวเพื่อพัฒนาและเสริมสร้างประสิทธิภาพการเรียนและอาชีพโดยรวมอยู่ในระดับมาก ( = 4.40, S.D. = 0.72) |