จุดเน้นของ สพฐ. ปี 2555
การวางแผน เป็นกระบวนการคิดก่อนทำ ส่วนกลยุทธ์ เป็นวิธีที่ดีที่สุด(Best way) ที่จะทำให้พันธกิจของหน่วยงานบรรลุวัตถุประสงค์ และเป้าหมายที่กำหนดไว้ ดังนั้นการวางแผนเชิงกลยุทธ์ จึงเป็นการหาวิธีการที่เราคิดว่าดีที่สุด ในสภาวะแวดล้อมภายในและภายนอก ที่ประสบอยู่ และเราก็มักจะใช้เทคนิค SWOT วิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายในเพื่อการศึกษา จุดแข็ง(Strength) และจุดอ่อน(Weak) และวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายนอก เพื่อศึกษาโอกาส(Opportunity) และข้อจำกัด อุปสรรค ภัยคุกคาม(Treat) หลายท่านมีปัญหาในการแบ่งสภาพแวดล้อมภายใน ภายนอก เกณฑ์ที่ใช้แบ่งก็คือ เรื่องใดที่เราสามารถควบคุม(Control) ได้ เรื่องนั้นเป็นสภาพแวดล้อมภายใน ถ้าเรื่องใดเหนือการควบคุมของเรา ก็เป็นสภาพแวดล้อมภายนอก กลยุทธ์ที่ดีต้องปรับเปลี่ยนไปตามสภาพแวดล้อมภายในและภายนอกที่เปลี่ยนแปลงไป อ่านแล้วอมยิ้ม รู้นะว่าคิดอะไรอยู่ คงคิดว่าแหมหลักการดีเชียว แต่กลยุทธ์ สพฐ. เหมือนเดิมมา 3-4 ปีแล้ว 555...อ้าว...ก็สภาพแวดล้อมไม่ค่อยได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเท่าใดนักไง ดังนั้นกลยุทธ์จึงเหมือนเดิม
ปี 2555 นี้ สพฐ.มีจุดเน้น 10 ประการด้วยกัน ดังนี้
1. ผลสัมฤทธิ์ในวิชาหลักเพิ่มขึ้นอย่างน้อย ร้อยละ 3 (Student achievement)
2. เตรียมความพร้อมด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา ตามหลักสูตรการศึกษาปฐมวัยอย่างมีคุณภาพ (EQ : Emotion Quotient)
3. นักเรียน ป.3 ทุกคนอ่านออก เขียนได้ คิดเลขเป็น นักเรียนป.6 ทุกคนอ่านคล่อง เขียนคล่อง คิดเลขคล่อง และมีทักษะ การคิดขั้นพื้นฐาน (Literacy & Numeracy)
4. นักเรียนทุกคนมีความสำนึกในความเป็นไทย จิตสาธารณะ อยู่อย่างพอเพียง (Sufficiency & Public Mind)
5. เพิ่มศักภาพนักเรียนด้านคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และศิลปศาสตร์ (Excel to excellence)
6. สร้างทางเลือกในการเรียนรู้ที่เน้นให้ประชากรวัยเรียนทุกคนเข้าถึงโอกาสทางการศึกษาอย่างทั่วถึง ลดอัตราการออกกลางคัน ศึกษาต่อ และประกอบอาชีพ (Alternative Access)
7. นักเรียน ครู และสถานศึกษาในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้รับการพัฒนาอย่างทั่วถึง มีคุณภาพสอดคล้องอัตลักษณ์ (Southern-Border Provinces)
8. นักเรียน ครู ผู้บริหาร และบุคลากรทางการศึกษา ได้รับการพัฒนาเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน มีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงและสังคมพหุวัฒนธรรม (ASEAN Community)
9. สถานศึกษาทุกแห่งมีระบบประกันคุณภาพภายในที่เข้มแข็ง และได้รับการรับรองจากการประเมินคุณภาพภายนอก ตลอดจนการพัฒนาสถานศึกษาในพื้นที่ชนบท โรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษา และโรงเรียนสู่มาตรฐานสากล (Quality Schools)
10. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาผ่านการประเมินคุณภาพตามเกณฑ์มาตรฐานของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (Effective Service Areas)
ธรรมะกล่อมจิต
ผมได้มีโอกาสอ่านหนังสือ เรื่อง ชีวิตนี้สั้นนัก ซึ่งถอดความจากการเทศน์ของสมเด็จพระสังฆราช เป็นเรื่องเกี่ยวกับ กฎแห่งกรรม ทำดีต้องได้ดี ทำชั่วต้องได้ชั่ว ประเภท ทำดีได้ดีมีที่ไหน ทำชั่วได้ดีมีถมไป นั้นเป็นการสำคัญผิด การทำกรรมดีและกรรมชั่วแต่ละครั้งจะมีการถูกบันทึกไว้ แล้วผลของการกระทำก็ค่อยๆแสดงออกมาทีละเรื่องทีละตอน ต่างกรรมต่างวาระ ไม่มีการหักลบกลบหนี้ เช่น ทำความดี 2 หน่วย ทำชั่ว 2 หน่วย จะถือว่าเจ๊ากันไปไม่ได้ ผลตอบแทนความดี 2 หน่วยจะเกิดขึ้น ผลตอบแทนความชั่ว 2 หน่วยจะเกิดขึ้น แต่เมื่อไรไม่รู้การที่เราเห็นคนชั่วบางคนกำลังได้ดี ก็เป็นเพราะเขากำลังได้รับผลดีจากที่เคยทำกรรมดีไว้ในอดีต ผลดีที่ได้รับในปัจจุบันไม่ใช่ผลที่เกิดขึ้นจากการทำความชั่วในปัจจุบัน ผลจากการทำความชั่วในปัจจุบันจะเกิดขึ้นในอนาคตอย่างแน่นอน ไม่ช้าก็เร็ว ดังนั้น พระคุณเจ้าจึงบอกว่า ชีวิตนี้สั้นนัก ต้องเร่งทำคุณงามความดีเข้าไว้ และเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน ที่ผ่านมา หากท่านใดได้มีโอกาสชมการถ่ายทอดสดการเสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.8 บริเวณสวนหลวง ร.8เชิงสะพานพระราม 8 เขตบางพลัด กทม.ก็คงได้รับฟังพระธรรมเทศนาของพระคุณเจ้าจากวัดกัลยาณมิตร ซึ่งท่านเทศน์เกี่ยวกับคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของผู้นำ/ผู้บริหาร/ผู้ปกครองที่ดี ซึ่งฟังแล้วเห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อการนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี ซึ่งคุณลักษณะที่พึงประสงค์ประกอบด้วย
1. มีความมุ่งมั่น ขยัน หมั่นเพียรการปฏิบัติงานในหน้าที่ที่รับผิดชอบ
2. ไม่ประมาทในเรื่องต่างๆ ไม่เห็นแก่ได้เล็กๆน้อยๆ ฉ้อราษฎร์บังหลวงหาประโยชน์เข้าตนเองในทางที่ไม่ชอบ ถ้ากล้าทำผิดในเรื่องเล็กๆน้อยๆได้ ต่อไปก็กล้าทำผิดเรื่องใหญ่ๆได้
3. มีปัญญารู้เท่าทันเหตุการณ์
3.1 รู้หนทางแห่งความเจริญ
3.2 รู้หนทางแห่งความเสื่อม
3.3 รู้วิธีแก้ไขสถานการณ์ต่างๆ
3.4 รู้วิธีการบริหารจัดการงานที่ดี
From : นโยบายและแผนสพฐ.
|