|
ความคิดเห็นที่: 1 |
|
|
|
|
|
- 1 -
ข้อบังคับคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา
ว่าด้วยการบริหารสำนักงาน
พ.ศ. 2551
.
อาศัยอำนาจตามมาตรา 63 (6) และมาตรา 83 วรรคท้าย แห่งพระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากร
ทางการศึกษา พ.ศ.2546 ประกอบกับมติคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา
ได้ให้ความเห็นชอบในการประชุมครั้งที่ 9/2551 เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2551 จึงกำหนดข้อบังคับว่าด้วยการ
บริหารสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา ไว้ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ข้อบังคับนี้เรียกว่า ข้อบังคับคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครู
และบุคลากรทางการศึกษา ว่าด้วยการบริหารสำนักงาน พ.ศ. 2551
ข้อ 2 ข้อบังคับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศเป็นต้นไป
บรรดาข้อบังคับ ระเบียบ และคำสั่งอื่นใด ในส่วนที่กำหนดไว้แล้วในข้อบังคับนี้หรือซึ่งขัดหรือ
แย้งกับข้อบังคับนี้ ให้ใช้ข้อบังคับนี้แทน
ข้อ 3 ให้ยกเลิกข้อบังคับคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากร
ทางการศึกษา ว่าด้วยการบริหารสำนักงาน พ.ศ. 2547
ข้อ 4 ในข้อบังคับนี้
คณะกรรมการ หมายความว่า คณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและ
บุคลากรทางการศึกษา
สำนักงาน หมายความว่า สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและ
บุคลากรทางการศึกษา
เลขาธิการ หมายความว่า เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและ
บุคลากรทางการศึกษา
รองเลขาธิการ หมายความว่า รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครู
และบุคลากรทางการศึกษา
คณะกรรมการจังหวัด หมายความว่า คณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครู
และบุคลากรทางการศึกษาจังหวัด และให้หมายความรวมถึงคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครู
และบุคลากรทางการศึกษากรุงเทพมหานคร
- 2 -
สำนักงาน สกสค.จังหวัด หมายความว่า สำนักงานส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและ
บุคลากรทางการศึกษาจังหวัด และให้หมายความรวมถึงสำนักงานส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากร
ทางการศึกษากรุงเทพมหานคร
ผู้อำนวยการ หมายความว่า ผู้อำนวยการสำนักหรือหัวหน้าส่วนงานที่เรียกชื่ออย่างอื่น
ซึ่งมีฐานะเทียบเท่า
ผู้อำนวยการจังหวัด หมายความว่า ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครู
และบุคลากรทางการศึกษาจังหวัด และให้หมายความรวมถึงผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครู
และบุคลากรทางการศึกษากรุงเทพมหานคร
พนักงานเจ้าหน้าที่ หมายความว่า พนักงานเจ้าหน้าที่ที่ได้รับเงินเดือนหรือค่าจ้างจากสำนักงาน
แต่ไม่รวมถึงพนักงานเจ้าหน้าที่ขององค์การค้าของ สกสค. ที่รับเงินเดือนหรือค่าจ้างจากองค์การค้าของ สกสค.
ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา หมายความว่า ครู ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารการศึกษา
บุคลากรทางการศึกษาอื่นตามพระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2546 และผู้ปฏิบัติงาน
ด้านการศึกษาทั้งของรัฐ เอกชน และท้องถิ่น
ผู้ปฏิบัติงานด้านการศึกษา หมายความว่า บุคคลซึ่งปฏิบัติงานอื่นในหน่วยงานทางการศึกษา
หรือเกี่ยวกับการให้การศึกษา หรือสนับสนุนและบริการเกี่ยวกับการศึกษาทั้งของรัฐและเอกชน และให้รวมถึง
ลูกจ้างประจำลูกจ้างชั่วคราวหรือที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่ปฏิบัติงานในลักษณะเดียวกัน
หน่วยงานการศึกษา หมายความว่า สถานศึกษา หรือหน่วยงานอื่นที่มีหน้าที่กำกับดูแล สนับสนุน
ส่งเสริมให้บริการเกี่ยวกับการจัดการศึกษาทั้งของรัฐและเอกชน
ข้อ 5 ให้เลขาธิการรักษาการให้เป็นไปตามข้อบังคับนี้ และให้มีอำนาจกำหนดระเบียบออกประกาศ
หรือคำสั่งเพื่อปฏิบัติการตามข้อบังคับนี้ รวมทั้งให้มีอำนาจตีความและวินิจฉัยชี้ขาดปัญหาอันเกี่ยวกบั การปฏิบัติการ
ตามข้อบังคับนี้
ในกรณีที่ข้อบังคับไม่ได้กำหนดเกี่ยวกับการบริหารสำนักงานในเรื่องใดไว้ ให้คณะกรรมการ
เป็นผู้พิจารณาและวินิจฉัยชี้ขาด
หมวด 1
การแบ่งส่วนงาน อำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบ
ข้อ 6 ให้สำนักงานแบ่งส่วนงาน ดังนี้
(1) หน่วยตรวจสอบภายใน
(2) สำนักอำนวยการ
(3) สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์
(4) สำนักพัฒนาระบบบริหารงานบุคคล
(5) สำนักสวัสดิการครู
- 3 -
(6) สำนักสวัสดิภาพครู
(7) สำนักกฎหมายและคุ้มครองสิทธิครู
(8) สำนักงาน สกสค.จังหวัด
และให้มีส่วนงานที่จัดระบบบริหารจัดการในรูปแบบพิเศษในกำกับของสำนักงาน ดังนี้
(1) ศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตครู
(2) สำนักส่งเสริมการลงทุนและจัดหาผลประโยชน 
(3) องค์การค้าของ สกสค.
ข้อ 7 หน่วยตรวจสอบภายใน มีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้
(1) การตรวจสอบบัญชี การควบคุมภายในทางบัญชี การสอบทานและประเมินผล
การควบคุมภายในสำหรับการปฏิบัติงานทุกด้านและทุกระบบ การพัฒนาระบบการตรวจสอบภายในให้เหมาะสม
และมีประสิทธิภาพ
(2) การรายงานผลการตรวจสอบ การให้ข้อมูลเชิงวิเคราะห์ ประเมินผล ข้อเสนอแนะ
คำปรึกษา โดยเฉพาะการรายงานเกี่ยวกับความเพียงพอและประสิทธิผลของระบบการควบคุมภายในทั้งทางบัญชี
การเงิน และการปฏิบัติงาน
(3) การประเมินการบริหารความเสี่ยง การควบคุม การกำกับดูแลเพื่อเพิ่มคุณค่าและ
ปรับปรุงการดำเนินงาน
(4) การประเมินความเพียงพอของมาตรการควบคุมภายในที่ฝ่ายบริหารกำหนดเพื่อป้องกัน
หรือลดโอกาสการทุจริต
(5) การปฏิบัติงานร่วมหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานอื่นที่เกี่ยวข้องหรือที่ได้รับมอบหมาย
ข้อ 8 สำนักอำนวยการ มีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้
(1) งานอำนวยการ งานเลขานุการ งานจัดระบบการอำนวยการ และการประสานงาน
ของสำนักงาน
(2) การประชุมคณะกรรมการ
(3) งานวิเทศสัมพันธ์ และกิจกรรมต่างประเทศ
(4) การเงินการบัญชี
(5) การพัสดุ และสินทรัพย์
(6) การประชาสัมพันธ์และเผยแพร 
(7) การประสานงานกับสำนักงาน สกสค. จังหวัด
(8) การปฏิบัติงานร่วมหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานอื่นที่เกี่ยวข้องหรือที่ได้รับมอบหมาย
ข้อ 9 ให้จัดระบบบริหารในสำนักอำนวยการ เป็น 4 กลุ่ม ดังนี้
(1) กลุ่มอำนวยการ
(2) กลุ่มการคลัง
- 4 -
(3) กลุ่มการพัสดุ
(4) กลุ่มประชาสัมพันธ 
ข้อ 10 สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ มีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้
(1) การส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษา วิจัยและพัฒนาเกี่ยวกับการดำเนินงาน
ด้านสวัสดิการ สวัสดิภาพ และผดุงเกียรติ ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาและผู้ปฏิบัติงานด้านการศึกษา
(2) การจัดทำและพัฒนานโยบายและยุทธศาสตร์
(3) การจัดทำแผนงานงบประมาณ
(4) การติดตาม ประเมินผล และรายงานผลการดำเนินงาน
(5) การพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ
(6) การปฏิบัติงานร่วมหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานอื่นที่เกี่ยวข้องหรือที่ได้รับมอบหมาย
ข้อ 11 ให้จัดระบบบริหารในสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ เป็น 4 กลุ่ม ดังนี้
(1) กลุ่มนโยบายและแผน
(2) กลุ่มงบประมาณ
(3) กลุ่มวิจัย ติดตาม และประเมินผล
(4) กลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศ
ข้อ 12 สำนักพัฒนาระบบบริหารงานบุคคล มีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้
(1) ดำเนินการสรรหาและการประชุมคณะอนุกรรมการบริหารงานบุคคล
(2) วางแผนอัตรากำลังของส่วนงานต่าง ๆ
(3) การกำหนดตำแหน่งและอัตราเงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง เงินวิทยฐานะ
ประโยชน์ตอบแทนอื่น และเงินสวัสดิการพนักงานเจ้าหน้าที่
(4) การสรรหา การบรรจุ และการแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่
(5) การจัดทำทะเบียนประวัติพนักงานเจ้าหน้าที่
(6) การลาศึกษาต่อ และการพัฒนาบุคลากร
(7) การปฏิบัติงานร่วมหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานอื่นที่เกี่ยวข้องหรือที่ได้รับมอบหมาย
ข้อ 13 ให้จัดระบบบริหารในสำนักพัฒนาระบบบริหารงานบุคคล เป็น 2 กลุ่ม ดังนี้
(1) กลุ่มบริหารงานบุคคล
(2) กลุ่มพัฒนาระบบบริหารและทรัพยากรบุคคล
ข้อ 14 สำนักสวัสดิการครู มีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้
(1) การจัดสวัสดิการ การส่งเสริมการจัดสวัสดิการ การพัฒนาระบบการจัดและส่งเสริม
การจัดสวัสดิการ
(2) การบริการที่พัก
(3) การส่งเสริมสุขภาพ การดูแลรักษาและป้องกันโรค
- 5 -
(4) การจัดตั้งและพัฒนา กองทุนและมูลนิธิ
(5) การส่งเสริมความสามัคคี ยกย่องเชิดชูเกียรติและผดุงเกียรติ ผู้ประกอบวิชาชีพ
ทางการศึกษาและผู้ปฏิบัติงานด้านการศึกษา
(6) การปฏิบัติงานร่วมหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานอื่นที่เกี่ยวข้องหรือที่ได้รับมอบหมาย
ข้อ 15 ให้จัดระบบบริหารในสำนักสวัสดิการครู เป็น 5 กลุ่ม ดังนี้
(1) กลุ่มส่งเสริมสวัสดิการ
(2) กลุ่มบริการที่พัก
(3) สถานพยาบาล สกสค.
(4) กลุ่มกองทุนและมูลนิธิ
(5) กลุ่มยกย่องเชิดชูเกียรติครู
ข้อ 16 สำนักสวัสดิภาพครู มีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้
(1) กิจการ ช.พ.ค. และ ช.พ.ส.
(2) การเงิน การบัญชีและสินทรัพย์ของกิจการ ช.พ.ค. และ ช.พ.ส.
(3) การปฏิบัติงานร่วมหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานอื่นที่เกี่ยวข้องหรือที่ได้รับมอบหมาย
ข้อ 17 ให้จัดระบบบริหารในสำนักสวัสดิภาพครู เป็น 3 กลุ่ม ดังนี้
(1) กลุ่ม ช.พ.ค.
(2) กลุ่ม ช.พ.ส.
(3) กลุ่มการเงินและบัญชี ช.พ.ค. และ ช.พ.ส.
ข้อ 18 สำนักกฎหมายและคุ้มครองสิทธิครู มีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้
(1) งานกฎหมายและระเบียบ งานนิติกรรม สัญญา และอรรถคดี
(2) การพิทักษ์และคุ้มครองสิทธิ ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา และผู้ปฏิบัติงาน
ด้านการศึกษา
(3) วินัย การรักษาวินัย การอุทธรณ์ และการร้องทุกข์
(4) การสรรหาและการประชุมคณะกรรมการอุทธรณ์และร้องทุกข์
(5) การปฏิบัติงานร่วมหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานอื่นที่เกี่ยวข้องหรือที่ได้รับมอบหมาย
ข้อ 19 ให้จัดระบบบริหารในสำนักกฎหมายและคุ้มครองสิทธิครู เป็น 2 กลุ่ม ดังนี้
(1) กลุ่มกฎหมายและอรรถคดี
(2) กลุ่มวินัยและอุทธรณ์ร้องทุกข์
ข้อ 20 ศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตครู มีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้
(1) การแก้ไขปัญหาหนี้สินผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาและผู้ปฏิบัติงานด้านการศึกษา
(2) การพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาและผู้ปฏิบัติงานด้านการศึกษา
(3) การส่งเสริมและสนับสนุน โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตครแู ละผู้ปฏิบัติงานด้านการศึกษา
- 6 -
(4) การศึกษาวิจัย ติดตาม และประเมินผลการแก้ไขปัญหาหนี้สินผู้ประกอบวิชาชีพ
ทางการศึกษาและผู้ปฏิบัติงานด้านการศึกษา และโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาและ
ผู้ปฏิบัติงานด้านการศึกษา
(5) การดำเนินการเพื่อจัดหารายได้สนับสนุนกิจการของสำนักงาน
(6) การปฏิบัติงานร่วมหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานอื่นที่เกี่ยวข้องหรือที่ได้รับมอบหมาย
ข้อ 21 การจัดระบบบริหารในศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตครู ให้เป็นไปตามระเบียบที่สำนักงานกำหนด
ข้อ 22 สำนักส่งเสริมการลงทุนและจัดหาผลประโยชน์ มีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้
(1) การวางแผนการพัฒนาและการจัดการลงทุน
(2) การบริหารจัดการผลประโยชน 
(3) การบริหารจัดการกองทุน
(4) การส่งเสริมการลงทุน และการประสานงานกับหน่วยการลงทุนอื่น
(5) การประเมินและจัดการความเสี่ยง
(6) การปฏิบัติงานร่วมหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานอื่นที่เกี่ยวข้องหรือที่ได้รับมอบหมาย
ข้อ 23 การจัดระบบบริหารในสำนักส่งเสริมการลงทุนและจัดหาผลประโยชน์ ให้เป็นไป
ตามระเบียบที่สำนักงานกำหนด
ข้อ 24 องค์การค้าของ สกสค. มีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้
(1) การจัดหาผลประโยชน์ให้แก่สำนักงานเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนสวัสดิการและ
สวัสดิภาพครู
(2) การบริการ ส่งเสริมและอำนวยความสะดวกในการจัดระบบการศึกษาของชาติ
ในด้านต่าง ๆ ดังนี้
ก. งานการพิมพ์ หนังสือเรียน และเอกสารทางการศึกษา
ข. งานการผลิตอุปกรณ์การศึกษา
ค. งานการค้าเพื่ออำนวยความสะดวกในการจัดหาเครื่องเขียน แบบเรียน
และอุปกรณ์การศึกษา
ง. งานบริการธุรกิจทางการศึกษา
(3) การส่งเสริมและสนับสนุนเกี่ยวกับการจัดการศึกษา
(4) การปฏิบัติการร่วมหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานอื่นที่เกี่ยวข้องหรือที่ได้รับมอบหมาย
ข้อ 25 การจัดระบบบริหารในองค์การค้าของ สกสค. ให้มีการปรับปรุงการบริหารให้สอดคล้องกับ
การเปลี่ยนแปลงและมีประสิทธิภาพสามารถแข่งขันได้อย่างเสรี ตามระเบียบที่คณะกรรมการองค์การค้าของ สกสค.กำหนด
โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ
ข้อ 26 สำนักงาน สกสค. จังหวัด มีอำนาจหน้าที่ในการดำเนินงานส่วนของจังหวัดดังต่อไปนี้
(1) งานอำนวยการและงานเลขานุการ
(2) งานคณะกรรมการจังหวัด งานโครงการพัฒนาชีวิตผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา
- 7 -
และผู้ปฏิบัติงานด้านการศึกษาและประสานงานทั่วไป
(3) การประชาสัมพันธ์ การงบประมาณ การเงิน การบัญชี การพัสดุ อาคารสถานที่
และยานพาหนะ
(4) การส่งเสริมสวัสดิการ สวัสดิภาพ คุ้มครองสิทธิครู งานมูลนิธิและกองทุน
(5) การส่งเสริมความสามัคคี และยกย่องเชิดชูเกียรติผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา
และผู้ปฏิบัติงานด้านการศึกษา
(6) การส่งเสริมสุขภาพผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาและผู้ปฏิบัติงานด้านการศึกษา
(7) งาน ช.พ.ค. - ช.พ.ส.
(8) การส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการศึกษา
(9) การปฏิบัติการร่วมหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานอื่นที่เกี่ยวข้องหรือที่ได้รับมอบหมาย
ข้อ 27 ให้จัดระบบบริหารงานในสำนักงาน สกสค.จังหวัด เป็น 3 งาน ดังนี้
(1) งานอำนวยการ
(2) งานสวัสดิการ
(3) งานสวัสดิภาพ
ข้อ 28 ให้ผู้อำนวยการจังหวัด มีอำนาจหน้าที่บังคับบัญชา ควบคุม ดูแล และรับผิดชอบเกี่ยวกับ
การดำเนินงานของสำนักงาน สกสค. จังหวัด หรือตามที่เลขาธิการมอบอำนาจให้ดำเนินการ
การเสริมสร้างประสิทธิภาพในการบริหารกิจการ และการติดตามกำกับดูแลการบริหารงาน
ของสำนักงาน สกสค. จังหวัด สำนักงานอาจจัดตั้งหน่วยงานเสริมสร้างประสิทธิภาพในภูมิภาค หรือกลุ่มจังหวัดได 
ข้อ 29 การแบ่งงานและการกำหนดหน้าทตี่ าม ข้อ 9 , ข้อ 11, ข้อ 13, ข้อ 15, ข้อ 17, ข้อ 19,
ข้อ 21,ข้อ 23, ข้อ 27 และข้อ 28 วรรคสอง ให้เป็นไปตามระเบียบที่สำนักงานกำหนด
หมวด 2
คณะกรรมการจังหวัด
ข้อ 30 ให้มีคณะกรรมการจังหวัด ประกอบด้วย
(1) ผู้อำนวยการสำนักงาน สกสค. จังหวัด เป็นประธาน
(2) กรรมการที่ได้รับการสรรหาจากผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา จำนวน 6 คน
แยกตามสังกัด ดังนี้
ก. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา จำนวน 2 คน
ข. สถาบันการอาชีวศึกษา จำนวน 1 คน
ค. สถานศึกษาเอกชน จำนวน 1 คน
ง. สถาบันการอุดมศึกษา จำนวน 1 คน
จ.องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 1 คน
- 8 -
(3) กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ สำนักงานแต่งตั้ง จำนวน 2 คน
(4) พนักงานเจ้าหน้าที่สำนักงาน สกสค. จังหวัด ซึ่งผอู้ ำนวยการจังหวัดมอบหมาย
จำนวนหนึ่งคน เป็นกรรมการและเลขานุการ
ให้ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกเขตในจังหวัดเป็นที่ปรึกษาคณะกรรมการจังหวัด
ให้กรรมการตาม (2 ) และ ( 3) อยู่ในตำแหน่งคราวละสี่ปี และอาจได้รับการสรรหา หรือ
แต่งตั้งใหม่ได้อีก ในกรณีที่กรรมการ ซึ่งได้รับการสรรหาหรือแต่งตั้งพ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระให้ผู้ที่ได้รับ
การสรรหาหรือแต่งตั้งอยู่ในตำแหน่งได้เพียงเท่าวาระที่เหลือของผู้ซึ่งตนแทน
คุณสมบัติ หลักเกณฑ์ และวิธีการได้มาซึ่งกรรมการตาม (2) การแต่งตั้งกรรมการตาม (3) และ
การพ้นจากตำแหน่งให้เป็นไปตามระเบียบที่สำนักงานกำหนด
ข้อ 31 คณะกรรมการจังหวัด มีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้
(1) ให้ความเห็นชอบร่างงบประมาณของสำนักงาน สกสค. จังหวัด
(2) ให้ความเห็น ให้คำปรึกษา และเสนอแนะแนวทางการดำเนินงานของสำนักงาน
และสำนักงาน สกสค. จังหวัด
(3) ส่งเสริมสนับสนุน ยกย่อง และผดุงเกียติครูภายในจังหวัด
(4) ปฏิบัติงาน ช.พ.ค. ช.พ.ส. ตามที่ได้รับมอบหมาย
(5) ควบคุมดูแลทรัพย์สิน ของสำนักงาน สกสค. จังหวัดให้เป็นไปตามข้อบังคับ
ของคณะกรรมการหรือระเบียบที่สำนักงานกำหนด
(6) ปฏิบัติงานอื่นตามที่คณะกรรมการหรือสำนักงานมอบหมาย
ข้อ 32 ให้มีการประชุมคณะกรรมการ สกสค. จังหวัด เดือนละหนึ่งครั้ง ในกรณีมีความจำเป็น
อย่างยิ่ง กรรมการจังหวัดไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งอาจเข้าชื่อร้องขอต่อประธานให้เปิดประชุมได 
ข้อ 33 การดำเนินการประชุมตามข้อ 32 ต้องมีกรรมการมาประชุมอย่างน้อยกึ่งหนึ่งของ
กรรมการทั้งหมดจึงจะเป็นองค์ประชุม
ข้อ 34 ในกรณีที่ประธานไม่อยู่ในที่ประชุม หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ หรือไม่มาประชุม
ให้กรรมการที่มาประชุมเลือกกรรมการคนหนึ่งขึ้นทำหน้าที่แทน
ข้อ 35 การลงมติที่ประชุมให้ถือเสียงข้างมาก กรรมการคนหนึ่งให้มีหนึ่งเสียงในการลงคะแนน
ถ้าคะแนนเสียงเท่ากันให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่งเป็นเสียงชี้ขาด
หมวด 3
การปฏิบัติการแทน
ข้อ 36 อำนาจในการสั่งการ การอนุญาต การอนุมัติ การปฏิบัติงาน หรือการดำเนินการอื่น
ที่ผู้ดำรงตำแหน่งใดพึ่งปฏิบัติหรือดำเนินการตามกฎหมาย ข้อบังคับ ระเบียบ คำสั่ง หรือมติของคณะกรรมการ
ในเรื่องใด ถ้ากฎหมาย ข้อบังคับ ระเบียบ หรือคำสั่ง หรือมติของคณะกรรมการในเรื่องนั้น มิได้กำหนด
เรื่องการมอบหมายอำนาจไว้เป็นอย่างอื่น หรือมิได้ห้ามเรื่องการมอบอำนาจไว้ ผู้ดำรงตำแหน่งนั้นอาจมอบหมาย
- 9 -
ให้ผู้ดำรงตำแหน่งอื่นปฏิบัติการแทนได  ดังต่อไปนี้
(1) เลขาธิการ อาจมอบอำนาจให้รองเลขาธิการ ผู้อำนวยการสำนัก หรือผู้ดำรงตำแหน่ง
เทียบเท่าหรือผู้อำนวยการจังหวัด
(2) ผู้อำนวยการสำนัก อาจมอบอำนาจให้พนักงานเจ้าหน้าที่ในสำนัก หรือส่วนงาน
ที่มีฐานะเทียบเท่า
(3) ผู้อำนวยการจังหวัด อาจมอบอำนาจหน้าที่ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ในสำนักงาน สกสค.จังหวัด
การมอบอำนาจดังกล่าวให้ทำเป็นหนังสือ และจะสมบูรณ์มีผลบังคับใช้เมื่อผู้รับมอบอำนาจรับทราบ
เป็นหลักฐาน
ข้อ 37 การมอบอำนาจตามข้อ 36 ให้ผู้มอบอำนาจพิจารณาถึงการอำนวยความสะดวกแก่ครู
ความรวดเร็วในการปฏิบัติงาน การกระจายความรับผิดชอบตามสภาพของตำแหน่งผู้รับมอบอำนาจ และ
ผู้รับมอบอำนาจต้องปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบอำนาจตามวัตถุประสงค์ของการมอบอำนาจดังกล่าว การกระทำใด ๆ
นอกเหนือจากการที่ได้รับมอบอำนาจ ให้ถือว่าเป็นการกระทำเฉพาะตัวของผู้รับมอบอำนาจ เว้นแต่ผู้มอบอำนาจ
จะให้สัตยาบันสำหรับการกระทำดังกล่าวนั้น
ให้ผู้มอบอำนาจติดตาม กำกับ ดูแลผลการปฏิบัติงานของผู้รับมอบอำนาจ และให้มีอำนาจแนะนำ
และแก้ไขการปฏิบัติงานของผู้รับมอบอำนาจได้
หมวด 4
การรักษาการแทน
ข้อ 38 ในกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ให้รองเลขาธิการ
เป็นผู้รักษาการแทน ถ้ามีรองเลขาธิการหลายคน ให้เลขาธิการ หรือคณะกรรมการ แล้วแต่กรณี แต่งตั้งรองเลขาธิการ
คนใดคนหนึ่งเป็นผู้รกั ษาการแทน ถ้าไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการ หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ให้เลขาธิการ
หรือคณะกรรมการ แล้วแต่กรณี แต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการขึ้นไปคนหนึ่งเป็นผู้รักษาการแทน
ในกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้เลขาธิการ หรือผู้ที่
เลขาธิการมอบหมาย แต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ในสำนักหรือส่วนงานที่มีฐานะเทียบเท่าคนหนึ่งเป็นผู้รักษาการแทน
ในกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการจังหวัด หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้ผู้อำนวยการจังหวัด
หรือเลขาธิการ หรือผู้ที่เลขาธิการมอบหมาย แล้วแต่กรณีแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ในสำนักงาน สกสค.จังหวัดคนหนึ่ง
เป็นผู้รักษาการแทน
ในกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการกลุ่ม หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ให้เลขาธิการ
หรือผู้ที่เลขาธิการมอบหมายแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ในกลุ่มเป็นผู้รักษาการแทน
ข้อ 39 ให้ผู้รักษาการแทนมีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับผู้ซึ่งตนแทน
ในกรณีที่ผู้ดำรงตำแหน่งใด หรือผู้รักษาการแทนผู้ที่ดำรงตำแหน่งนั้นมอบหมายหรือมอบอำนาจ
ให้ผู้อื่นปฏิบัติงานแทน ให้ผู้ปฏิบัติงานแทนมีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับผู้ซึ่งมอบหมายหรือมอบอำนาจ ในกรณีที่มี
กฎหมาย ข้อบังคับ ระเบียบ หรือมติคณะกรรมการ แต่งตั้งให้ผู้ดำรงตำแหน่งใดเป็นกรรมการหรือให้มีอำนาจหน้าที่
- 10 -
อย่างใด ให้รักษาการแทนหรือผู้ปฏิบัติงานแทนมีอำนาจ หน้าที่เป็นกรรมการ หรือมีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับผู้
ดำรงตำแหน่งนั้น ในการรักษาการแทน หรือปฏิบัติงานแทนด้วย แล้วแต่กรณี
บทเฉพาะกาล
ข้อ 40 ให้โอนบรรดาส่วนงาน กิจการ เงิน ทรัพย์สิน หนี้สิน อัตรากำลัง พนักงานเจ้าหน้าที่
และลูกจ้างตามข้อบังคับคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา ว่าด้วย
การบริหารสำนักงาน พ.ศ. 2547 ไปเป็นส่วนงานของสำนักงานตามข้อบังคับนี้ ดังนี้
(1) หน่วยตรวจสอบภายใน ให้โอนไปเป็นของหน่วยตรวจสอบภายใน
(2) สำนักอำนวยการ ให้โอนไปเป็นของสำนักอำนวยการ ยกเว้นกลุ่มบริหารงานบุคคล
ให้โอนไปสังกัดสำนักพัฒนาระบบบริหารงานบุคคล
(3) สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ ให้โอนไปเป็นของสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์
(4) สำนักพัฒนาความมั่นคงและเชิดชูเกียรติครู ให้โอนไปเป็นของสำนักกฎหมาย
และคุ้มครองสิทธิครู ยกเว้น กลุ่มพัฒนาคุณภาพชีวิตครู ให้โอนไปสังกัดศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตครู และกลุ่มยกย่อง
เชิดชูเกียรติครู ให้โอนไปสังกัดสำนักสวัสดิการครู
(5) สำนักสวัสดิการครู ให้โอนไปเป็นของสำนักสวัสดิการครู
(6) สำนักสวัสดิภาพครู ให้โอนไปเป็นของสำนักสวัสดิภาพครู ยกเว้น กลุ่มกองทุน
และมูลนิธิให้โอนไปสังกัดสำนักสวัสดิการครู
(7) องค์การค้าของ สกสค. ให้โอนไปเป็นขององค์การค้าของ สกสค.
(8) สำนักงาน สกสค. จังหวัด ให้โอนไปเป็นของสำนักงาน สกสค. จังหวัด
ข้อ 41 ในระหว่างที่ยังมิได้ออกระเบียบ ประกาศหรือคำสั่ง เพื่อปฏิบัติการให้เป็นไปตามข้อบังคับนี้
ให้นำระเบียบ ประกาศ คำสั่ง หรือหลักเกณฑ์ ที่ออกตามข้อบังคับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการ
และสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา ว่าด้วยการบริหารงานสำนักงาน พ.ศ. 2547 หรือที่แก้ไขเพิ่มเติม
มาบังคับใช้โดยอนุโลมเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับข้อบังคับนี้
ข้อ 42 ให้สำนักงาน และหรือคณะกรรมการที่กำหนดไว้ในข้อบังคับนี้ กำหนดระเบียบ หลักเกณฑ์
วิธีการและอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับนี้ให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งร้อยแปดสิบวัน
ประกาศ ณ วันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2551
ชินภัทร ภูมิรัตน
(นายชินภัทร ภูมิรัตน)
ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
ประธานกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครู
และบุคลากรทางการศึกษา |
|
|
|
|
|
By: เกี่ยวกับ สกสค. (49.48.73.*) 28/05/2012 06:19 AM |
|