|
|
ความคิดเห็นที่: 1 |
|
|
|
|
|
เห็นด้วยอย่างมากค่ะ ช้ำใจเหลือเกิน เป็นครูมาหกปี แต่ได้เงินเดือนเท่าครูเรียนหลักสูตรห้าปีที่เพิ่งผ่านประเมินพัฒนาอย่างเข้ม แบบนี้ ครูหลักสูตรห้าปี ก็อย่าบ่นนะคะ ว่างานเยอะ เพราะคุณมาทีหลัง แต่ได้เงินเดือนเท่ากัน มันก็เป็นหน้าที่ของคุณที่ต้องทำงานหนักกว่าพวกเรา เพราะเราผ่านจุดนั้นมาแล้ว ซึ่งก็หนักไม่น้อยกว่าคุณเลย แต่เรากลับได้รับผลตอบแทนแบบไม่ยุติธรรมเลย |
|
|
|
|
|
By: ครู48 เหมือนกัน (192.168.1.*) 3/11/2011 09:23 AM |
|
|
|
|
|
ความคิดเห็นที่: 2 |
|
|
|
|
|
เพราะความ หลงลืม เซ่อซ่า เงอะงะ เฟอะฟะ ซื่อบื้อ (โง่เง่า)ของ ผู้ออกกฏระเบียบ
จึงทำให้เกิดความไม่เป็นธรรมนี้ขึ้นมา อย่างน่าอดสู
ความจริงควรจะรีบแก้ไข เยียวยา นานแล้ว หากมีใจเป็นธรรม
เพราะมีวิธีที่สามารถทำได้
แต่ไม่ยอมทำ
อยากเรียกร้องให้ผู้เสียประโยชน์นี้ร่วมกันร้องเรียน
ไม่งั้น มันคงไม่ได้หรอก |
|
|
|
|
|
By: หัวอกเดียวกัน (192.168.1.*) 3/11/2011 09:24 AM |
|
|
|
|
|
ความคิดเห็นที่: 3 |
|
|
|
|
|
ไม่ใช่แต่ครู 5 ปีหรอกที่ได้ ครูที่บรรจุปี 51-52 ก็เงินเดือนเท่าคนที่ทำงานมาแล้ว 5-6 ปีเหมือนกัน |
|
|
|
|
|
By: ครู (192.168.1.*) 3/11/2011 09:39 AM |
|
|
|
|
|
ความคิดเห็นที่: 4 |
|
|
|
|
|
ผมก็บรรจุประมาณนี้ น้องเขาได้เงินเดือนเท่าแล้ว แต่ก็อย่างว่า ทำไรได้ ทำใจง่ายกว่า ไม่อยากเป็นทุกข์ สอนเด็กให้สนุก ๆ ดีกว่า ทำวิทยฐานะก็ทำได้แล้ว 6 ปี ปีหน้าก็ทำชำนาญการพิเศษ (ป่านนั้นพี่ที่ทำงานก็ยังว่าเราอายุนิดเดียวก็ทำชำนาญการพิเศษแล้ว) อีกไม่กี่ปี ก็ทำเชี่ยวชาญ ทำ ๆ ๆ ๆๆ ทำให้เด็กได้ดี เก็บผลงานดี ๆ ส่งเชี่ยวชาญ คิดถึงก่อนหน้านี้ เขารอแต่ขั้น นั่งจ้องหน้ากัน ใครได้สองขั้นก็บ่น ว่ากันไป เรามีวิทฐานะแล้ว ก้มหน้าก้มตาทำเข้าไป ใครจะขึ้นเงินเดือน ใครจะได้สองขั้นก็เอาไป เรื่องอิจฉาเราก็อิจฉาน้องบรรจุใหม่ พี่ก็อิจฉาเราว่าได้วิทยฐานะไว มันเรื่องของกิเลสมนุษย์ ทำงานดีกว่า ได้เงินมาก ๆ จะได้ไปจ่าย ชพค 7 อิอิอิ |
|
|
|
|
|
By: หัวอกเดียวกัน (192.168.1.*) 3/11/2011 12:11 PM |
|
|
|
|
|
ความคิดเห็นที่: 6 |
|
|
|
|
|
รัฐบาลชี้แจง นโยบายเงินเดือนหมื่นห้า ครอบคลุมทั้ง ปวช.-ปวส.-ป.โท-ป.เอก เตรียมนำร่างเข้าที่ประชุม 4 ต.ค.นี้
น.ส.อนุตมา อมรวิวัฒน์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงถึงหลักการให้เงินเพิ่มค่าครองชีพของข้าราชการที่จบปริญญาตรีได้รับเงินเพิ่ม จนมีเงินเดือนถึง 15,000 บาท และลูกจ้างประจำส่วนราชการ ลูกจ้างชั่วคราว รวมทั้งทหารเกณฑ์กองประจำการจะได้รับเงินเพิ่มค่าครองชีพจนมีเงินเดือนถึง 9,000 บาท ซึ่งนายกรัฐมนตรี และ ครม.ได้มอบหมายให้มีการศึกษากฎหมายดังกล่าวเพิ่มเติม เนื่องจากเป็นห่วงผู้ที่จบการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) และประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) รวมไปถึงผู้จบปริญญาโทและปริญญาเอก ที่ช่วงเงินเดือนมีความเหลื่อมล้ำกัน
โดยหลังจากการประชุม ครม.แล้วทั้งสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) และกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ได้ไปประชุมเพิ่มเติมและได้ข้อสรุปว่า
1. ตัวร่างกฎหมายเกี่ยวกับเงินเพิ่มของข้าราชการและลูกจ้างประจำนั้นจะครอบคลุมถึงการให้เงินเพิ่มค่าครองชีพสำหรับผู้จบ ปวช. ปวส. ปริญญาโท และปริญญาเอกแล้ว และจะนำร่างกฎหมายดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุม ครม.อีกครั้งในวันอังคารที่ 4 ตุลาคม 2554
2. สำนักงาน ก.พ.จะดำเนินการปรับโครงสร้างเงินเดือนของข้าราชการทุกประเภท โดยออกเป็น พ.ร.บ.ที่จะมีการปรับเงินเดือนให้แก่ข้าราชการที่ได้รับบรรจุใหม่ และปรับให้กับข้าราชการที่อยู่ในระบบเดิมอยู่แล้ว เพื่อเป็นการเยียวยา โดยจะมีการแบ่งเป็น 2 ระยะคือ
- ในปีงบประมาณ 2555 จะมีการปรับโครงสร้างเงินเดือน ที่จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2555
- ในปีงบประมาณ 2556 จะมีการปรับโครงสร้างเงินเดือนอีกครั้ง ให้ข้าราชการได้รับเงินเดือนเพิ่มขึ้นเป็นธรรมทั้งระบบ
|
|
|
|
|
|
By: ครู48คือกัน (192.168.1.*) 3/11/2011 02:53 PM |
|
|
|
|
|
ความคิดเห็นที่: 7 |
|
|
|
|
|
จากการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)วันนี้ น.ส.อนุตตมา อมรวิวัฒน์อนุตมา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ครม.มีมติอนุมติให้ปรับเพิ่มค่าครองชีพสำหรับข้าราชการและบุคลากรภาครัฐที่มีเงินเดือนไม่ถึง 1.5 หมื่นบาท ให้ได้รับเงินเดือนขั้นต่ำ 1.5 หมื่นบาท มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2555
ทั้งนี้ การปรับเพิ่มเงินเดือนขั้นต่ำดังกล่าว ครอบคลุมบุคลากรภาครัฐ 5 กลุ่ม ราว 6.49 แสนคน ได้แก่
- ข้าราชการ
- ลูกจ้างประจำ
- ลูกจ้างชั่วคราว
- พนักงานราชการ
- ทหารกองประจำการจำนวน
โดยจะแบ่งกลุ่มเงินเดือนออก ดังนี้
กลุ่มปริญญาตรีผู้ได้รับเงินเดือนเกิน 15,000 บาท แต่ไม่เกิน 20,000บาท จะมีเงินค่าครองชีพเพิ่มให้อีก
กลุ่มปริญญาตรีที่เงินเดือนไม่ถึง 15,000 บาท จะเพิ่มค่าครองชีพให้เป็น 15,000 บาท
กลุ่มผู้มีวุฒิต่ำกว่าปริญญาตรี ที่ได้รับเงินเดือน 9000 บาทขึ้นไป รับค่าครองชีพ 1,500 บาท
กลุ่มผู้มีวุฒิต่ำกว่าปริญญาตรี ที่ได้รับเงินเดือนไม่ถึง 9,000 บาท จะเพิ่มค่าครองชีพให้ถึง 9,000 บาท |
|
|
|
|
|
By: ครู48คือกัน (192.168.1.*) 3/11/2011 03:03 PM |
|
|
|
|
|
ความคิดเห็นที่: 8 |
|
|
|
|
|
จากการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)วันนี้ น.ส.อนุตตมา อมรวิวัฒน์อนุตมา รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ครม.มีมติอนุมติให้ปรับเพิ่มค่าครองชีพสำหรับข้าราชการและบุคลากรภาครัฐที่มีเงินเดือนไม่ถึง 1.5 หมื่นบาท ให้ได้รับเงินเดือนขั้นต่ำ 1.5 หมื่นบาท มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2555
ทั้งนี้ การปรับเพิ่มเงินเดือนขั้นต่ำดังกล่าว ครอบคลุมบุคลากรภาครัฐ 5 กลุ่ม ราว 6.49 แสนคน ได้แก่
- ข้าราชการ
- ลูกจ้างประจำ
- ลูกจ้างชั่วคราว
- พนักงานราชการ
- ทหารกองประจำการจำนวน
โดยจะแบ่งกลุ่มเงินเดือนออก ดังนี้
กลุ่มปริญญาตรีผู้ได้รับเงินเดือนเกิน 15,000 บาท แต่ไม่เกิน 20,000บาท จะมีเงินค่าครองชีพเพิ่มให้อีก
กลุ่มปริญญาตรีที่เงินเดือนไม่ถึง 15,000 บาท จะเพิ่มค่าครองชีพให้เป็น 15,000 บาท
กลุ่มผู้มีวุฒิต่ำกว่าปริญญาตรี ที่ได้รับเงินเดือน 9000 บาทขึ้นไป รับค่าครองชีพ 1,500 บาท
กลุ่มผู้มีวุฒิต่ำกว่าปริญญาตรี ที่ได้รับเงินเดือนไม่ถึง 9,000 บาท จะเพิ่มค่าครองชีพให้ถึง 9,000 บาท |
|
|
|
|
|
By: ครู48คือกัน (192.168.1.*) 3/11/2011 03:03 PM |
|
|
|
|
|
ความคิดเห็นที่: 9 |
|
|
|
|
|
ถ้าตามข้อมูล คห 8 ว่า
วุฒิต่ำกว่า ป.ตรี ดีกว่า ป.ตรี
เช่นคนเงินเดือน 8000 เพิ่มค่าครองชีพ 9000 รวมเป็น 17000
ขณะที่ถ้าป.ตรี ที่รับ14000 ก็จะได้ 15000
ถูกหรือ
|
|
|
|
|
|
By: คิดดู (192.168.1.*) 4/11/2011 10:50 AM |
|
|
|
|
|
ความคิดเห็นที่: 10 |
|
|
|
|
|
ท่านคิดดู อ่านให้ชัดๆแล้วทำความเข้าใจแล้วท่านจะเข้าใจตามที่ลงให้ดูครับ |
|
|
|
|
|
By: ครู48 คือกัน (192.168.1.*) 4/11/2011 03:49 PM |
|
|
|
|
|
ความคิดเห็นที่: 11 |
|
|
|
|
|
« อย่าเป็นผู้จัดการอย่างว่ากันเลยนะครับจาก blog สู่หนังสือเล่มแรก »ข่าวล่าสุดในการปรับเงินเดือนราชการ
ตุลาคม 4, 2011 โดย prakal
ในที่สุดข่าวเรื่องของการปรับเงินเดือนข้าราชการทั้งระบบก็น่าจะมาถึงบทสรุปซักทีนะครับ ข่าวล่าสุดที่ผมได้รับมาก็เป็นไปตามข้างล่างนี้ครับ
เมื่อวันที่ 29 ก.ย. มีรายงานข่าวเปิดเผยว่า จากการประชุมร่วมกันระหว่างสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน(ก.พ.) กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง และผู้เกี่ยวข้องจากหน่วยงานต่างๆ ได้ข้อสรุปร่วมกันถึงการปรับฐานเงินเดือนข้าราชการทั้งระบบ เพื่อให้สอดคล้องกับการปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการที่มีวุฒิปริญญาตรีเข้าใหม่ เดือนละ 15,000 บาท
โดยที่ประชุมจะนำเสนอแนวทางการปรับฐานเงินเดือนเข้าสู่การพิจารณาของครม.ในวันที่ 4 ต.ค.นี้ ซึ่งไม่ใช่การปรับขึ้นแค่ 6% ตามข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้เพราะการขึ้น 6% เป็นตัวเลขของการปรับขึ้นเงินเดือนทั้งระบบราชการในแต่ละปี
สำหรับแนวทางการปรับฐานเงินเดือนนั้น ทางก.พ.จะเสนอครม.ปรับฐานเงินเดือนข้าราชการทั้งระบบ ตั้งแต่วุฒิ ปวช.ไปจนถึงปริญญาเอก ในช่วง 2 ปี เริ่ม 1 ม.ค. 2555 โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
กลุ่มข้าราชการวุฒิ ปวช.
ปัจจุบัน ผู้ที่ทำงานมาแล้ว 1 ปีมีเงินเดือนต่ำสุดที่ 6,400 บาท ส่วนผู้ที่ทำงานมา 10 ปี มีเงินเดือนต่ำสุดอยู่ที่ 14,000 บาท ดังนั้นจะมีการปรับฐานเงินเดือน คือ
- ข้าราชการวุฒิ ปวช.ที่ทำงานมาแล้ว 1-2 ปี ปีแรกจะได้ปรับฐานเงินเดือนขึ้น 1,200 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 1,380 บาท
- ข้าราชการวุฒิ ปวช.ที่ทำงานมาแล้ว 3-4 ปี ปีแรกจะได้ปรับขึ้น 1,000 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้นอีก 1,000 บาท
- ข้าราชการวุฒิ ปวช.ที่ทำงานมาแล้ว 5-6 ปี ปีแรกจะได้ปรับขึ้น 800 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้นอีก 700 บาท
- ข้าราชการวุฒิ ปวช.ที่ทำงานมาแล้ว 7-8 ปี ปีแรกได้ปรับขึ้น 600 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 400 บาท
- ข้าราชการวุฒิ ปวช.ที่ทำงานมาแล้ว 9-10 ปี ปีแรกได้ปรับขึ้น 400 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 100 บาท
ดังนั้น เมื่อมีการปรับฐานเงินเดือนภายใน 2 ปีแล้ว ข้าราชการเก่าที่จบ ปวช.ที่ทำงานมา 1 ปี จะมีเงินเดือน 10,690 บาท ส่วนผู้ที่ทำงานมา 10 ปี จะมีเงินเดือน 17,110 บาท
กลุ่มข้าราชการวุฒิ ปวส.
ปัจจุบันผู้ที่ทำงานมาแล้ว 1 ปีมีเงินเดือนต่ำสุดที่ 7,670 บาท และผู้ที่ทำงานมาแล้ว 10 ปี มีเงินเดือนต่ำสุดอยู่ที่ 16,710 บาท ดังนั้นจะมีการปรับฐานเงินเดือน คือ
- ข้าราชการวุฒิ ปวส.ที่ทำงานมาแล้ว 1-2 ปี ปีแรกปรับขึ้น 1,290 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 1,590 บาท
- ข้าราชการวุฒิ ปวส.ที่ทำงานมาแล้ว 3-4 ปี ปีแรกปรับขึ้น 1,000 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 1,200 บาท
- ข้าราชการวุฒิ ปวส.ที่ทำงานมาแล้ว 5-6 ปี ปีแรกปรับขึ้น 800 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 900 บาท
- ข้าราชการวุฒิ ปวส.ที่ทำงานมาแล้ว 7 ปี ปีแรกปรับขึ้น 600 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 600 บาท
- ข้าราชการวุฒิ ปวส.ที่ทำงานมาแล้ว 8 ปี ปีแรกปรับขึ้น 400 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 300 บาท
- ข้าราชการวุฒิ ปวส.ที่ทำงานมาแล้ว 9-10 ปี ปีแรกปรับขึ้น 200 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 100 บาท
ดังนั้น เมื่อมีการปรับฐานเงินเดือนภายใน 2 ปีแล้ว ข้าราชการเก่าที่จบ ปวส.ที่ทำงานมา 1 ปี จะมีเงินเดือน 12,010 บาท ส่วนผู้ที่ทำงานมา 10 ปี จะมีเงินเดือน 19,810 บาท
กลุ่มวุฒิปริญญาตรี
ปัจจุบันผู้ที่ทำงานมาแล้ว 1 ปี มีเงินเดือนต่ำสุดอยู่ที่ 9,140 บาท และผู้ที่ทำงานมาแล้ว 10 ปี มีเงินเดือนต่ำสุดที่ 19,910 บาท ดังนั้นจะมีการปรับฐานเงินเดือน คือ
- ข้าราชการวุฒิปริญญาตรี ทำงานมาแล้ว 1 ปี ปีแรกปรับขึ้น 2,540 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 3,320 บาท
- ข้าราชการวุฒิปริญญาตรี ทำงานมาแล้ว 2-3 ปี ปีแรกปรับขึ้น 2,100 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 2,800 บาท
- ข้าราชการวุฒิปริญญาตรี ทำงานมาแล้ว 4 ปี ปีแรกปรับขึ้น 1,700 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 2,300 บาท
- ข้าราชการวุฒิปริญญาตรี ทำงานมาแล้ว 5-6 ปี ปีแรกปรับขึ้น 1,300 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 1,800 บาท
- ข้าราชการวุฒิปริญญาตรี ทำงานมาแล้ว 7-8 ปี ปีแรกปรับขึ้น 900 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 1,300 บาท
- ข้าราชการวุฒิปริญญาตรี ทำงานมาแล้ว 9 ปี ปีแรกปรับขึ้น 500 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 800 บาท
- ข้าราชการวุฒิปริญญาตรี ทำงานมาแล้ว 10 ปี ปีแรกปรับขึ้น 100 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 300 บาท
ดังนั้น เมื่อมีการปรับฐานเงินเดือนภายใน 2 ปีแล้ว ข้าราชการเก่าที่จบปริญญาตรีที่ทำงานมา 1 ปี จะมีเงินเดือน 16,310 บาท ส่วนผู้ที่ทำงานมา 10 ปี จะมีเงินเดือน 23,810 บาท
กลุ่มวุฒิปริญญาโท
ปัจจุบันผู้ที่ทำงานมาแล้ว 1 ปีมีเงินเดือนต่ำสุดที่ 12,600 บาท และผู้ที่ทำงานมาแล้ว 10 ปี มีเงินเดือนต่ำสุดอยู่ที่ 23,110 บาท ดังนั้นจะมีการปรับฐานเงินเดือน คือ
- ข้าราชการวุฒิปริญญาโท ทำงานมาแล้ว 1 ปี ปีแรกปรับขึ้น 2,700 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 2,300 บาท
- ข้าราชการวุฒิปริญญาโท ทำงานมาแล้ว 2 ปี ปีแรกปรับขึ้น 1,800 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 2,000 บาท
- ข้าราชการวุฒิปริญญาโท ทำงานมาแล้ว 3-4 ปี ปีแรกปรับขึ้น 1,500 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 1,700 บาท
- ข้าราชการวุฒิปริญญาโท ทำงานมาแล้ว 5 ปี ปีแรกปรับขึ้น 1,200 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 1,400 บาท
- ข้าราชการวุฒิปริญญาโท ทำงานมาแล้ว 6 ปี ปีแรกปรับขึ้น 900 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 1,100 บาท
- ข้าราชการวุฒิปริญญาโท ทำงานมาแล้ว 7 ปี ปีแรกปรับขึ้น 600 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 900 บาท
- ข้าราชการวุฒิปริญญาโท ทำงานมาแล้ว 8 ปี ปีแรกปรับขึ้น 300 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 600 บาท
- ข้าราชการวุฒิปริญญาโท ทำงานมาแล้ว 9-10 ปี ปีแรกปรับขึ้น 100 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 300 บาท
ดังนั้น เมื่อมีการปรับฐานเงินเดือนภายใน 2 ปีแล้ว ข้าราชการเก่าที่จบปริญญาโทที่ทำงานมา 1 ปี จะมีเงินเดือน 18,710 บาท ส่วนผู้ที่ทำงานมา 10 ปี จะมีเงินเดือน 26,610 บาท
กลุ่มวุฒิปริญญาเอก
ปัจจุบันผู้ที่ทำงานมาแล้ว 1 ปีมีเงินเดือนต่ำสุดที่ 17,010 บาท และผู้ที่ทำงานมาแล้ว 10 ปี มีเงินเดือนต่ำสุดอยู่ที่ 28,110 บาท ดังนั้นจะมีการปรับฐานเงินเดือน คือ
- ข้าราชการวุฒิปริญญาเอก ทำงานมาแล้ว 1-2 ปี ปีแรกปรับขึ้น 1,690 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 1,800 บาท
- ข้าราชการวุฒิปริญญาเอก ทำงานมาแล้ว 3-5 ปี ปีแรกปรับขึ้น 1,200 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 1,200 บาท
- ข้าราชการวุฒิปริญญาเอก ทำงานมาแล้ว 6-8 ปี ปีแรกปรับขึ้น 800 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 600 บาท
- ข้าราชการวุฒิปริญญาเอก ทำงานมาแล้ว 9-10 ปี ปีแรกปรับขึ้น 400 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 600 บาท
ดังนั้น เมื่อมีการปรับฐานเงินเดือนภายใน 2 ปีแล้ว ข้าราชการเก่าที่จบปริญญาเอกที่ทำงานมา 1 ปี จะมีเงินเดือน 24,810 บาท ส่วนผู้ที่ทำงานมา 10 ปี จะมีเงินเดือน 33,210 บาท
พออ่านจบแล้วผมก็พยายามหาตรรกะ และวิธีการปรับที่เขาเสนอ แต่หาเท่าไรก็หาไม่เจอครับ เท่าที่ได้ทดลองคำนวณดูก็คือจะมีการปรับภายในสองปีแรกแบบสองเด้ง คือ เด้งแรกเป็นการปรับขึ้นเงินเดือนประจำปี (อาจจะประมาณ 5-6%) และอีกเด้งในปีเดียวกันก็คือ ปรับตามตัวเลขที่เขาให้มา จากนั้นในปีที่สองก็ปรับตาม% ขึ้นเงินเดือนอีกครั้งและปรับฐานตามตัวเลขที่ให้มาในปีที่สอง ผลออกมาเป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกับที่เขาคำนวณมาแต่ก็ไมเป๊ะ ก็เลยเกิดความสงสัยเล็กน้อยว่า ทำไมไม่อธิบายวิธีการคำนวณให้มันชัดๆ ไปเลยจะได้เข้าใจกันง่ายๆ และไม่ต้องให้แต่ละคนไปคิดกันเอาเอง ไอ้คิดกันไปเองนี่แหละครับที่จะเกิดความสับสนตามมาอีกมากมาย
|
|
|
|
|
|
By: ครู48 คือกัน (101.51.45.*) 8/11/2011 01:02 PM |
|
|
|
|