http://www.sisaketedu1.go.th/ | หน้าแรก
       

คนหลง
     
 

คนหลง

ตทนนฺตรํ ลำดับนั้น พระพุทธเจ้าจึงตรัสเทศนา ต่อไปอีกว่า ดูกรอานนท์ บุคคลผู้ใดมิได้ทำบุญให้ทาน รกษาศีลเป็นต้น ไว้สำหรับตัวเสียก่อนแต่เมื่อยังมีชีวิตอยู่ ผู้นั้นก็เป็นคนหลง บุคคลผู้ใดอยากได้ความสุขแต่มิได้ กระทำตนให้ได้รับความสุขไว้ก่อน ตั้งแต่เมื่อยังมีชีวิตอยู่ เข้าใจเสียว่า ตายไปแล้วภายหน้าจึงจะได้รับความสุขเช่นนี้ ผู้นั้นก็เป็นคนหลง บุคคลผู้ใดอยากให้ตนพ้นทุกข์ แต่ไม่ได้ กระทำตนให้พ้นทุกข์เสียตั้งแต่เมื่อยังมีชีวิตอยู่ เข้าใจเสียว่า ตายไปแล้วจึงจะพ้นทุกข์ ดังนี้ผู้นั้นก็เป็นคนหลง บุคคล ผู้ใดที่ทำความเข้าใจว่า เมื่อยังมีชีวิตอยู่นี้เป็นอย่างหนึ่ง ตายไปแล้วเป็นอีกอย่างหนึ่ง บุคคลผู้นั้นก็เป็นคนหลง บุคคลผู้ใดเข้าใจเสียว่า เมื่อยังเป็นคนมีชีวิตอยู่นี้ ไม่รู้ไม่เห็น ไม่ได้เป็นก็ช่างเถิดไม่เป็นไร ตายไปแล้ว ภายหน้าหากจะรู้ จะเห็น จะได้ จะเป็น ผู้นั้นก็เป็นคนหลง บุคคลผู้ใดเข้าใจ เสียว่า เมื่อยังเป็นคนยังมีชีวิตอยู่นี้สุขก็ช่างเถิด ตายไปแล้ว จะได้สุข ผู้นั้นก็เป็นคนหลง บุคคลผู้ใดถือเสียว่า เมื่อยังมี ชีวิตอยู่นี้ทุกข์ก็ช่างเถิดไม่เป็นไร ตายไปแล้วจะได้สุข ผู้นั้น ก็เป็นคนหลง บุคคลถือเสียว่า เมื่อยังเป็นคนมีชีวิตอยู่นี้ จะทุกข์ก็ดี จะสุขก็ดี จะชั่วก็ดี ก็ช่างเถิด ตายไปแล้วจะไป เป็นอะไรก็ช่างเถิด ใครจะตามไปรู้ไปเห็น ผู้นั้นก็เป็นคนหลง

ดูกรอานนท์ บุคคลทั้งหลายปรารถนาอยากพ้นทุกข์ หรือ ปรารถนาอยากให้สุขประเภทใด ก็ควรให้ได้ให้ถึงเสียแต่ ในชาตินี้ ถ้าถือเอาภายหน้าเป็นประมาณแล้ว ชื่อว่าเป็น คนหลงสิ้นทั้งนั้น

แม้ความสุขอย่างสูงคือพระนิพพาน ผู้ปรารถนาก็พึงรีบขวนขวายให้ได้ให้ถึงเสียแต่เมื่อยังเป็น คนมีชีวิตอยู่นี้. ดูกรอานนท์ อัน
ว่าความสุขในพระนิพพาน นั้นมี ๒ ประเภท คือ ดิบ ๑ สุก ๑ ได้ความว่า เมื่อยัง เป็นคน มีชีวิตอยู่ได้เสวยสุขในพระนิพพานนั้นได้ชื่อว่า พระนิพพานดิบ

เมื่อตายไปแล้วได้เสวยสุขในพระนิพพานนั้น ชื่อว่าพระนิพพานสุก

พระนิพพานมี ๒ ประเภทเท่านี้ นิพพานโลกีย์ นิพพานพรหม เป็นนิพพานหลงไม่นับเข้า ในที่นี้ พระนิพพานดิบนั้นเป็นของสำคัญ ควรให้รู้ให้เห็น ให้ได้ให้ถึงไว้เสียก่อนตาย ถ้าไม่ได้พระนิพพานดิบนี้แล้ว ตายไปก็จะได้พระนิพพานสุกนั้นไม่มีเลย ถ้าไม่รู้ไม่เข้าใจ ก็ยิ่งไม่มีทางได้ แต่รู้แล้วเห็นแล้วพยายามจะให้ได้ให้ถึง ก็แสนยากแสนลำบากยิ่งนักหนา ผู้ใดเห็นว่าพระนิพพาน มีอย่างเดียว ตายแล้วจึงจะได้ ผู้นั้นชื่อว่าเป็นคนหลง

ส่วนพระนิพพานดิบนั้นจะจัดเอาความสุขอย่างละเอียด เหมือนอย่างพระนิพพานสุกนั้นไม่ได้ แต่ก็เป็นความสุข อย่างละเอียดสุขุมหาสิ่งเปรียบมิได้อยู่แล้ว แต่หากยังมี กลิ่นรสแห่งทุกข์กระทบถูกต้องอยู่ จึงไม่ละเอียดเหมือน พระนิพพานสุก เพราะพระนิพพานสุกไม่มีกลิ่นรสแห่งทุกข์ จะมากล้ำกรายปราศจากสรรพสิ่งทั้งปวง

แต่พระนิพพานดิบ นั้นต้องให้ได้ไว้ก่อนตาย ดูกรอานนท์ อันว่าพระนิพพาน นั้นพึงให้ดูอย่างแผ่นพระธรณีมีลักษณะอาการฉันใด ก็ให้ ตัวเรามีลักษณะอาการฉันนั้น ถ้าทำได้เช่นนั้นก็ได้ชื่อว่า ถึงพระนิพพานดิบ

ถ้าทำไม่ได้ แต่พูดว่าอยากได้ จะพูด มากมายเท่าไรๆ ก็ตาม ก็ไม่อาจที่จะได้จะถึงเลย ถ้า ปรารถนาจะถึงพระนิพพานแล้ว ต้องทำจิตทำใจของตน ให้เป็นเหมือนแผ่นดินเสียก่อน ไม่ใช่เป็นของทำได้ด้วยง่าย ต้องพากเพียรลำบากยากยิ่งนักจึงจะได้ จะเข้าใจว่าปรารถนา เอาด้วยปากก็คงจะได้ อย่างนี้เป็นคนหลงไปใช้ไม่ได้ ต้องทำตัวทำใจให้เป็นเหมือนแผ่นดินให้จงได้ ลักษณะของ แผ่นดินนั้น คนและสัตว์ทั้งหลายจะทำร้ายทำดี กล่าวร้าย กล่าวดีประการใด มหาปฐพีนั้นก็มิได้รู้โกรธรู้เคืองที่ว่า ทำใจให้เหมือนแผ่นดินนั้น คือว่าให้วางใจเสีย อย่าเอื้อเฟื้อ อาลัยว่าใจของตน ให้ระลึกอยู่ว่า ตัวมาอาศัยอยู่ไปชั่วคราว เท่านั้น เขาจะนึกจะคิดอะไรก็อย่าตามเขาไป ให้เข้าใจอยู่ว่า เราอยู่ไปคอยวันตายเท่านั้น ประโยชน์อะไรกับวัตถุข้าวของ และตัวตนอันเป็นของภายนอก แต่ใจซึ่งเป็นของภายใน และเป็นของสำคัญ

ก็ยังต้องให้ปล่อยให้วาง อย่าถือเอาว่า เป็นของของตัว กล่าวไว้แต่พอให้เข้าใจเพียงเท่านี้โดยสังเขป ดูกรอานนท์ คำที่ว่าให้ปล่อยวางจิตใจนั้น คือว่าให้ละ ความโลภความโกรธความหลง ปลงเสียซึ่งการร้ายและการดี ที่บุคคลนำมากล่าว มีลาภ เสื่อมลาภ มียศ เสื่อมยศ นินทา สรรเสริญ สุข ทุกข์ อย่ายินดี อย่ายินร้าย แม้ ปัจจัยเครื่องบริโภค เป็นต้นว่าอาหารการกิน ผ้าผ่อน เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่ที่นอน เภสัชสำหรับแก้โรค ก็ให้ละ ความโลภความหลงในปัจจัย เหล่านั้นเสีย ให้มีความ มักน้อยในปัจจัย

แต่มิใช่ว่าจะห้ามเสียว่าไม่ให้กินมิให้ นุ่งห่ม ไม่ให้อาศัยในสถานที่ ไม่ให้กินหยูกกินยา เช่นนั้น ก็หามิได้ คือให้ละความโลเลในปัจจัยเท่านั้น คือว่าเมื่อ ได้อย่างดีอย่างประณีต ก็ให้บริโภคอย่างเลวทรามต่ำช้า ตามมีตามได้ ไม่ให้ใจขุ่นมัวด้วย ความโลภ ความโกรธ ความหลง อย่างนี้แหละจึงจะได้ชื่อว่าปล่อยวางใจเสียได้

ถ้ายังเลือกปัจจัยอยู่ คือปล่อยให้ความโลภความโกรธ ความหลงเข้าครอบงำ เพราะเหตุแห่งปัจจัย ๔ อย่างใด อย่างหนึ่งอยู่ ชื่อว่าถือจิตถือใจอยู่ ยังไม่ถึงพระนิพพาน ได้เลย ถ้าละความโลภ ความโกรธ ความหลงในปัจจัยนั้น ได้แล้ว จึงชื่อว่าทำตัวให้เป็นเหมือนแผ่นดินเป็นอันถึง พระนิพพานได้โดยแท้

มีคำสอดเข้ามาในที่นี้ว่า เหตุไฉน จึงมิให้ถือใจ เมื่อไม่ให้ถือเช่นนั้น จะให้เอาใจไปไว้ที่ไหน เพราะไม่ใช่ใจของคนอื่น เป็นใจของตัวแท้ ๆ ที่จะเป็นอยู่ ได้ทุกวันนี้ ก็เพราะมีใจนี้เอง ถ้าไม่มีใจนี้แล้วก็ตายเท่านั้น จะให้วางใจเสียแล้ว จะรู้จะเห็นอะไร

มีคำวิสัชนาไว้ว่า ผู้ที่ เข้าใจว่า ใจนั้นเป็นของของตัวจริง ผู้นั้นก็เป็นคนหลง

ความจริงไม่ใช่จิตของเราแท้ ถ้าหากเป็นจิตใจของเราแท้ ก็คงบังคับได้ตามประสงค์ว่า อย่าให้แก่อย่าให้ตายก็คงจะ ได้สักอย่าง เพราะเป็นของตัว อันที่แท้จิตใจนั้นเป็นลม อันเกิดอยู่สำหรับโลก ไม่ใช่จิตใจของเรา โลกเขาตั้งแต่ง ไว้ก่อนเรา เราจึงเข้ามาอาศัยอยู่กับด้วยลมจิตใจ ณ กาลเป็นภายหลัง ถ้าหากว่าเป็นจิตใจของเรา เราพา เอามาเกิด ครั้นเกิดขึ้นแล้วจิตใจนั้นก็หมดไป ใครจะ เกิดขึ้นมาได้อีก

นี่ไม่ใช่จิตใจของใครสักคน เป็นของ มีอยู่สำหรับโลก ผู้ใดจะเกิดก็ถือเอาลมนั้นเกิดขึ้น ครั้น ได้แล้วก็เป็นจิตของตน ที่จริงเป็นของสำหรับโลกทั้งสิ้น

ที่ว่า จิตใจของตนนั้น ก็เพียงให้รู้ซึ่งการบุญการกุศล การบาป การอกุศล และเพียงให้รู้ทุกข์สุข สวรรค์และพระนิพพาน ถือเอาไว้ให้ถึงที่สุดเพียงพระนิพพานเท่านั้น ถ้าถึงพระ นิพพานแล้ว ต้องวางจิตใจคืนไว้แก่โลกตามเดิมเสียก่อน ถ้าวางไม่ได้เป็นโทษ ไม่อาจถึงพระนิพพานได้

มีคำแก้ไว้ ดังนี้ ตทนนฺตรํ ลำดับนั้น พระพุทธเจ้าจึงตรัสเทศนา ต่อไปอีกว่า อานนฺท ดูกรอานนท์ บุคคลทั้งหลายที่หลง ขึ้นไปบังเกิดในอรูปพรหมอันปราศจากความรู้นั้น ก็ล้วน แต่บุคคลผู้ปรารถนาพระนิพพาน แต่ไม่รู้จักวางใจให้สิ้น ให้หมดทุกข์นั้นเอง ไม่รู้จักวางจิตวิญญาณอันตนเข้ามาอาศัย อยู่กับด้วยลมของโลก ทำความเข้าใจว่าเป็นจิตของตัว และ เข้าใจว่า พระนิพพานมีอยู่ในเบื้องบนนั้น ตัวก็นึกเข้าใจ เอาจิตของตัวขึ้นไปเป็นสุขอยู่ในที่นั้น ครั้นตายแล้วก็เลย พาเอาตัวขึ้นไปอยู่ในที่อันไม่มีรูป ตามที่จิตตนนึกไว้นั้น

ดูกรอานนท์ ผู้ที่หลงขึ้นไปอยู่ในอรูปพรหมแล้วจะได้ถึง โลกุตตรนิพพานนั้นช้านานยิ่งนัก เพราะว่าอายุของ อรูปพรหมนั้นยืนนัก จะนับว่าเท่านั้นเท่านี้มิอาจนับได้ จึงเชื่อว่านิพพานโลกีย์ ต่างกันแต่มิได้ดับวิญญาณเท่านั้น ถ้าหากดับวิญญาณก็เป็นพระนิพพานโลกุตตรได้

ส่วน ความสุขความสำราญในพระนิพพานทั้ง ๒ นั้น ก็ประเสริฐ เลิศโลกเสมอกันไม่ต่างกัน แต่นิพพานโลกีย์เป็นนิพพาน ที่ไม่สิ้นสุดเท่านั้น เมื่อสิ้นอำนาจของฌานแล้ว ยังต้องมี เกิดแก่เจ็บตาย ร้ายและดี คุณและโทษ สุขและทุกข์ยังมีอยู่ เต็มที่ เพราะเหตุนั้น ผู้ใดผู้หนึ่งซึ่งจะปรารถนานิพพาน พรหมไม่มีเลย

ย่อมมุ่งต่อโลกุตตรนิพพานด้วยกันทั้งนั้น แต่ไม่รู้จักปล่อยวางวิญญาณจึงหลงไปเกิดเป็นอรูปพรหม ส่วนโลกุตตรนิพพานนั้นปราศจากวิญญาณ วิญญาณยังมี ที่ใด ความเกิดแก่เจ็บตายก็มีอยู่ในที่นั้น โลกุตตรนิพพาน ปราศจากวิญญาณ จึงไม่มีเกิดไม่มีแก่ ไม่มีเจ็บไม่มีตาย มีแต่ความสุขสบาย ปราศจากอามิส หาความสุขอันใด จะมาเปรียบด้วยนิพพานไม่มี พระพุทธเจ้าตรัสแก่ข้าฯ อานนท์ ดังนี้แล

 
     
      By : คนธรรมดา  Mail to คนธรรมดา    (118.175.254.*)  4/09/2011 04:07 PM  
 
 
 
  ความคิดเห็นที่: 2  
     
  วันนี้หลายคนเดินสะดุดเพราะหลงเงาของตัวเองหลายคนชอบดูเงาของตนเองในตอนเช้าเพียงเวลาเดียวแล้วอุปมาว่าเรายิ่งใหญ่เหลือเกิน เงาคนเรามีสั้นมียาว เช้ายาว เที่ยงหด พอบ่ายคล้อยจะเรื่มยาวแล้วลับหายไปในความมืดเมื่อตะวันตกดิน เปรียบประหนึ่งชีวิตคนเรามีขึ้นและมีลง เมื่อช่วงขาขึ้นเปรียบประหนึ่งเงาเราทอดยาวในตอนเช้า ช่วงนนี้แหละที่ทำให้คนหลงลำพองว่าเรายิ่งใหญ่เตะฟ้าถึงแล้ว เมื่อถึงคราวเที่ยงเงาจะหดแทบมองไม่เห็นเปรียบประหนึ่งช่วงขาลงทำให้คนหดหู่ เป็นช่วงที่ทำให้ผู้คนส่วนหนึ่งเสียผู้เสียคน และล้มเหลวในชีวิต หากอดทนอีกไม่นานเงาจะทอดยาวในช่วงบ่ายแล้วลับหายเมื่อความมืดมาเยือนเปรียบประหนึ่งชีวิตคนที่อดทนเมื่อขาลงและทำคุณงามความดี บารมีจะแผ่ขยายเหลือไว้ซึ่งคุณงามความดีตราไว้ในแผ่นดิน ขอแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้วยคนหากเราไม่หลงเงาตัวเองชีวิตจะคว้ซึ่งคุณงามความดี  
     
    By: ครูชายขอบ      (223.207.175.*) 12/09/2011 10:23 PM
 


     
 
       
ชื่อ ::
  *
  รหัส ::   (เฉพาะสมาชิก)
 
อีเมล์ ::
  (สมาชิกไม่ต้องกรอก)
     
Insert Bold text Insert Italicized text Insert Underlined text Insert Centered text Insert a Hyperlink Insert Email Hyerplink Insert an Image Insert Code Formatted text Insert Quoted text
 
รายละเอียด ::
  *
  ใส่รูปแสดงอาการ ::   Confused Idea Smile Wink Coool Love It Cry Devil Kiss Yum Big Grin Smiley Razz Brow
Blue Smile Ek Frusty Eek Weird Look Bawling Angry Fire Red Face Eplus Uh Oh Crying Sinister Tongue Roll Eyes
 
รูปประกอบ ::
  ไม่เกิน 50 Kb
       
     
 
     
 
 Search Word:
Support by http://www.sisaketedu1.go.th
This programe support PHP 4, MySQL Developer by NOKESTUDIO In Thailand
NINEBOARD Vol 3.0 Copyright © 2001-2002 NINETO SOLUTION All Rights Reserved.