http://www.sisaketedu1.go.th/ | หน้าแรก
       

ข้ออธิบายของหลวงปู่ชา
     
 

ที่ว่าสมถะหรือสมาธิ และวิปัสสนาหรือปัญญานี้เป็นสิ่งเดียวกัน

นี่ก็เป็นเรื่องง่ายๆ นี่เอง สมาธิ (สมถะ)
และปัญญา (วิปัสสนา) นี้ ต้องควบคู่กันไป

เบื้องแรกจิตจะตั้งมั่นเป็นสมาธิอยู่ได้โดยอาศัยอารมณ์ภาวนา จิตจะสงบตั้งมั่นอยู่ได้เฉพาะขณะที่ท่านนั่งหลับตาเท่านั้น

นี่คือสมถะและอาศัยสมาธิเป็นพื้นฐานช่วยให้เกิดปัญญา หรือวิปัสสนาได้ในที่สุด

แล้วจิตก็ จะสงบไม่ว่าท่านจะนั่งหลับตาอยู่หรือเดินอยู่ในเมืองวุ่นวาย เปรียบเหมือนกับว่า ครั้งหนึ่งท่านเคยเป็นเด็ก บัดนี้ท่านเป็นผู้ใหญ่ แล้วเด็กกับผู้ใหญ่นี้เป็นบุคคลคนเดียวกันหรือเปล่า

ท่านอาจจะพูดได้ว่าเป็น คนคนเดียวกัน หรือถ้ามองอีกแง่หนึ่งท่านก็อาจจะพูดได้ว่าเป็นคนละคนกัน

ในทำนองเดียวกัน สมถะกับวิปัสสนา ก็อาจจะพูดได้ว่าเป็นคนละเรื่องกัน หรือเปรียบเหมือนอาหารกับอุจจาระ อาจจะเรียกได้ว่าเป็นคนละสิ่งกัน

อย่าเพิ่งเชื่อสิ่งที่ผมพูดมานี้ จงฝึกปฏิบัติต่อไป และเห็นจริงด้วยตัวของท่านเอง ไม่ต้องทำอะไร พิเศษไปกว่านี้

ถ้าท่านพิจารณาว่าสมาธิและปัญญาเกิดขึ้นได้อย่างไรแล้ว ท่านจะรู้ความจริงได้ด้วยตัว ของท่านเอง

ทุกวันนี้ผู้คนไปยึดมั่นอยู่กับชื่อเรียก ผู้ที่เรียกการปฏิบัติของพวกเขาว่า “วิปัสสนา” สมถะก็ถูก เหยียดหยาม

หรือผู้ที่เรียกการปฏิบัติของพวกเขาว่า “สมถะ” ก็จะพูดว่าจำเป็นต้องฝึกสมถะก่อน วิปัสสนา เหล่านี้เป็นเรื่องไร้สาระ อย่าไปวุ่นวายคิดถึงมันเลย

เพียงแต่ฝึกปฏิบัติไป แล้วท่านจะรู้ได้ด้วย ตัวท่านเอง

 
     
      By : คนธรรมดา      (118.175.255.*)  30/08/2011 10:21 PM  
 
 
 
  ความคิดเห็นที่: 1  
     
  ฉันบอกกับตัวเองเสมอว่า "การภาวนา คือ การลดความโง่ของตัวเอง การอ้างว่าไม่มีเวลาภาวนา ถือว่าไม่มีเวลาลดความโง่ของตนเอง"
การแก้ปัญหา เป็นหน้าที่ของชีวิต..อาจจะด้วยปัญญา หรือแก้ไขตัวมันเองด้วยเวลาก็ตาม
ขอบคุณ...สำหรับแสงสว่างที่มอบให้แก่กัน
 
     
    By: เจริญในธรรม...      (61.19.66.*) 31/08/2011 09:54 AM
 

 
  ความคิดเห็นที่: 2  
     
  การรักษาศิล 5 ได้ด้วยก็ประเสริฐนักแล นั่นคือสิ่งที่บ่งบอกว่าเราสามารถปฏิบัติธรรมได้ จิตสงบ ใจสงบ กายสงบ จะพบความสุขที่แท้จริง ให้เวลากับตนเองให้ได้เราจะได้พบหนทางสว่างแห่งธรรม  
     
    By: ฉันก็ครู  Mail to ฉันก็ครู    (101.51.45.*/192.168.8.114) 31/08/2011 10:26 AM
 

 
  ความคิดเห็นที่: 3  
     
  ถ้างั้นทำไมไม่อนุญาตให้ลูกจ้างชั่วคราว อย่างเช่นธุรการหรืออัตราจ้าง ไปปฏิบัติธรรมบ้างล่ะ เคยลาโรงเรียนไปปฏิบัติธรรมครั้งหนึ่งโดนว่าจากผอ. อย่างเสียๆหายๆ ก็เห็นออกประกาศว่าถ้าลาปฏิบัติธรรมแล้วไม่ให้ถือว่าลา หมายความว่าให้มาปฏิบัติงานเหมือนปกติ แต่ข้าพเจ้าโดนด่า ซะยับเลย ขอความเป็นธรรมด้วย อยากหาโอกาสให้ตัวเองบ้างก็แค่นั้นเองเพราะบังเอิญวันที่เขาจัดวิปัสนากรรมฐานมันไม่ตรงกับวันหยุด และปีหน้าในวันมาฆบูชาก็กะว่าจะขอลาอีก ไม่รู้ว่าจะได้ไหม?  
     
    By: รักธรรมแต่กรรมมาขวาง      (182.93.163.*) 31/08/2011 10:45 AM
 

 
  ความคิดเห็นที่: 4  
     
  การปฏิบัติรรมไม่จำเป็นต้องลางาน ไม่มีงานไม่มีเงินก็เป็นทุกข์แน่นอน ขณะทำงานก็สามารถปฏิบัติธรรมได้ โดยการตั้งใจทำงานพร้อมทั้งสวดมนต์ในใจใหเป็นสมาธิจะกลายเป็นปกติ ทำให้เกิดสมาธิเกิดปัญญา ไม่เจ็บไม่จน บทสวดมนต์นั้นใช้บทสวดมนต์ที่เราศรัทธา เช่นบทอิติปิโส บทคาถาปัจเจกพระพุทธเจ้า บทคาถาเงินล้าน ฯลฯ อยู่ที่ใจปรารถนา ทำให้เราได้ธรรมะและได้งานไม่ต้องโดนใครด่าด้วย อย่าลืมอุทิศส่วนกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวรของเราและใครก็ได้ที่เราต้องการ ควบคู่กับการรักษาศิลห้าไปด้วย ขอให้ได้พบความสุขทางใจและธรรมะอันแท้จริง หรือเวลาไม่เกิน 5 นาทีก็ทำได้  
     
    By: ฉันก็ครู  Mail to ฉันก็ครู    (101.51.46.*/192.168.8.114) 31/08/2011 03:19 PM
 

 
  ความคิดเห็นที่: 5  
     
  ขอบคุณสำหรับคำชี้แนะค่ะคุณครู จะพยายามทำให้ได้แต่บางทีงานเยอะก็ทำให้หงุดหงิดง่าย สู้เราไปปฏิบัติ ณ สถานที่จริงๆไม่ได้ รู้สึกว่าจะสงบได้เร็วกว่าค่ะ ยังไงก็จะพยายามค่ะ  
     
    By: ผู้น้อย      (182.93.163.*) 1/09/2011 09:43 AM
 

 
  ความคิดเห็นที่: 6  
     
  คนเราการมีงานเยอะมันไม่ใช่อุปสรรคหรอกนั่นคือสิ่งที่ท้าทายเรา ดีกว่าไม่มีงานทำ แสดงว่าตัวเรายังมีคุณค่าเขาถึงกล้าให้ทำงาน เพราะฉนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างมารไม่มีบารมีไม่เกิด ตัวเรางานล้นมือบางวันบริหารเวลาไม่ได้ไม่ได้รับประทานอารกลางวัน ก็ยังบอกตนเองเลยทำไมเราไม่ฉลาดเลย แต่การสวดมนต์ในใจนั้นทำให้ร่างกายเราเป็นปกติ ไม่มีความรู้สึกหิว ถ้าจิตใจว้าวุ่น อยู่ในสถานปฏิบัติธรรมก็ไม่สงบ ความสงบอยู่ที่เราทำใจยอมรับในสิ่งที่มันเกิดแล้วแก้ไขปีญหาด้วยปัญญา อดทนอีกไม่นานคุณสงบ มีความสุข และเงินไม่ขาดมือจะตามมาโดยไม่รู้ตัว อดทนหน่อยนะคุณกำลังจะได้พบธรรมะที่มีค่าในชีวิตแล้วขออวยพร  
     
    By: ฉันก็ครู  Mail to ฉันก็ครู    (101.51.40.*/192.168.8.114) 1/09/2011 01:42 PM
 

 
  ความคิดเห็นที่: 7  
     
  การไม่เอาเปรียบสังคม ทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด รู้คุณคน ให้เกียรติคนทุกคน คือการปฏิบัติธรรมแล้วครับ  
     
    By: ครูใหญ่เก่า      (223.207.175.*) 11/09/2011 04:43 PM
 

 
  ความคิดเห็นที่: 8  
     
  เคยกราบหลวงปู่เจ้าคุณอมร (วัดป่าวิเวกธรรมชา) ท่านสอนว่าเป็นครูอย่าสอนแต่คนอื่นสอนตัวเองด้วยนะ ฝากเพื่อคิดครับ  
     
    By: ครูใหญ่เก่า      (223.207.175.*) 11/09/2011 04:45 PM
 


     
 
       
ชื่อ ::
  *
  รหัส ::   (เฉพาะสมาชิก)
 
อีเมล์ ::
  (สมาชิกไม่ต้องกรอก)
     
Insert Bold text Insert Italicized text Insert Underlined text Insert Centered text Insert a Hyperlink Insert Email Hyerplink Insert an Image Insert Code Formatted text Insert Quoted text
 
รายละเอียด ::
  *
  ใส่รูปแสดงอาการ ::   Confused Idea Smile Wink Coool Love It Cry Devil Kiss Yum Big Grin Smiley Razz Brow
Blue Smile Ek Frusty Eek Weird Look Bawling Angry Fire Red Face Eplus Uh Oh Crying Sinister Tongue Roll Eyes
 
รูปประกอบ ::
  ไม่เกิน 50 Kb
       
     
 
     
 
 Search Word:
Support by http://www.sisaketedu1.go.th
This programe support PHP 4, MySQL Developer by NOKESTUDIO In Thailand
NINEBOARD Vol 3.0 Copyright © 2001-2002 NINETO SOLUTION All Rights Reserved.