http://www.sisaketedu1.go.th/ | หน้าแรก
       

นี่เราทำอะไร กันอยู่ล่ะเนี่ย ?
     
 

เดิมเราก็อยู่กระทรวงธรรมการ แล้วมาเป็นศึกษาธิการ 14 กรม (หรือเรียก ประชดกันว่า14 องค์ชาย) ก็บอกว่ามันมากไป เยิ่นเย้อ ล่าช้า


ก็จึงถึงเวลา แปลงร่าง เหลือ แค่ 4 หรือ 5 แท่งนี่แหละ( ขี้เกียจ จำ) มี สพฐ และอะไรอีก จำไม่ได้

โดยเฉพาะด้านการศึกษา มีการปฏิรูป
มาโดยตลอด จนเวลามากกว่า 10 ปี นับได้ว่าถือเป็น ประวัติศาสตร์ได้ ตอนนี้ก็กำลังคั่วกันอยู่ที่ ปฏิรูปการศึกษารอบ 2 หุหุ

และควบคู่ตามมาติด ๆ กับการประเมินของ
สมศ รอบ 3 (อีกแล้ว ครับท่าน)


เคยสังเกตหรือไม่ แต่เดิมสอนแค่เลข คัด เลิก ยังพอมีคนดี เป็นครู เป็นชาวนา เป็นข้าราชการ ดีดี พอให้เห็นอยู่บ้าง

ปฏิรูปกันเข้าไป
ไฮเทคกันเข้าไป แข่งบันกันเข้าไป
ประกวดประขันกันเข้าไป รับเหรียญ รับใบประกาศ กันสารพัด

ตอนนี้เป็งอย่างไร
เด็กพิเศษเต็มบ้านเต็มเมือง
เด็กไทยอ่านเขียนภาษาไทยไม่ออกกันมากมาย ผลสอบออกมา O-net NT สอบตก กันระเนระนาด

พัฒนาครูก็พัฒนานากันยกใหญ่ อบรมกันเป็นล่ำเป็นสัน (อบรมทั้งปิดเทอม ทั้งตอนเปิดเทอม) ไม่มีวันหยุดหายใจ

ทำผลงานวิชาการกันเป็นล่ำเป็นสัน ทั้งคนทำ ทั้งคนอ่าน ทั้งคนตรวจ รวยกันทั่วหน้า จากรากหญ้าจนถึงปลายฟ้า จนเด็กนักเรียนของเราสูงเสียดฟ้า แต่ต่ำกว่าหญ้านิ้ดเดียว (ก็มันยังอ่านไม่ออก)

พอกันทีเถอะ
ผลงานวิชาการ วิชาเกิน วิชามาร
กับเกณฑ์ประเมินของเทวดา ต่าง ๆ (ที่หลับหูหลับตานั่งฝัน ทั้งกลางวันและกลางคืน ตื่นกันเสียที กับการตำน้ำพริกละลายมหาสมุทร)

คุณมาทำการพัฒนากันจริง ๆ
ทำงานกันจริง ๆ
ช่วยกันจริง ๆ เป็นไหม
ช่วยกันทั้งหมด ( ได้แก่ ทั้งผู้บริหารโรงเรียน ทั้งครู ทั้งนักเรียน และผู้ปกครองนักเรียน)
สอนให้นักเรียนอ่านออก เขียนได้ จนคล่อง คิดเลขเป็น ถูกต้อง ทำงานเป็น เป็นคนดีของตนเอง ของสังคม

ทำแค่นี้ให้ได้ ไม่ต้องไปอบรมอะไรให้มากมาย ไม่ต้องมัวปฏิรูป ปฏิแล่บ

ยุบสมศ ไม่ต้องมาประเมิน ให้ยุบทิ้งทั้งระบบ โดยออก พรบ.ยกเลิก สมศ

แล้วให้ ผู้ปกครองครู และชุมชนเป็นผู้ประเมินแทน ( ทั้งนี้ บรรดาเงินค่าใช้จ่ายที่รัฐเคยจายให้ บรรดาบริษัทและ เจ้าหน้าที่ที่มาประเมินภายนอก ให้ตกเป็น ของโรงเรียนและผู้ปกครองนักเรียนเพื่อใช้ในการ ประเมินผลการจัดการศึกษา ไม่ต้องให้โรงเรียนต้องเดือดร้อนจัดทำผ้าป่ากันทุกปี ตลอดไป)


พูดตรง ๆ เสียดายงบประมาณการศึกษา ปีละ สามแสนล้านจริง ๆ ทั้งอุดมศึกษา กศ พื้นฐาน และต่าง ๆ สาระพัด

เป็นการจัดการศึกการศึกษาที่สูญเปล่า จริง ๆ นะจะบอกไห่

 
     
      By : ครู โง้โง่ หุหุ      (118.175.254.*)  27/04/2011 06:53 PM  
 
 
 
  ความคิดเห็นที่: 1  
     
  เห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้จริงๆ มันเป็นจั่งได๋ เพราะทำตามใจนาย ไม่ได้ฟังเสียงครู อย่างโรงเรียน นายฝัน ไง ฝันไปเถอะ นายนะ ถามว่าเด็กได้อะไร ยังไม่ได้นอนเลย ตื่นเถอะนาย เลิกฝันซะที สายแล้ว  
     
    By: ครูเก่าๆ      (223.206.53.*) 27/04/2011 08:44 PM
 

 
  ความคิดเห็นที่: 2  
     
  ไม่สร้างสรรค์เลย ส่วน O - NEt N T ใคร ๆ ก็อยากได้ ๆ ด้วยกันนั่นแหละ เจ้านายหนะเขาคิดถูกแล้ว ทำตามเขาเถอะ ไม่เสียหายหรอก

พูดแบบนี้สิเสียหายนะ
 
     
    By: ครู      (223.205.101.*) 27/04/2011 10:33 PM
 

 
  ความคิดเห็นที่: 3  
     
  เห็นด้วยล้านเปอเซน  
     
    By: เห็นด้วย      (125.26.70.*) 28/04/2011 08:45 AM
 

 
  ความคิดเห็นที่: 4  
     
  ครูกลัวที่สุดคือการถูกประเมิน ดิ้นให้ยุบ สมศ. เงินเดือนครึ่งแสนไม่มีปัญญาสอนให้เด็กอ่านหนังสือออกได้ โทษงบประมาณ โทษระบบ โทษหลักสูตร แต่ไม่เคยโทษตัวเอง สอนด้วยตัวเองแท้ ๆ ที่โรงเรียนที่ห้องเรียน แต่เด็กอ่านหนังสือไม่ออก แล้วก็โทษโน่นโทษนี่ สอนหนังสือให้นักเรียนอ่านออกเขียนได้ ต้องใช้งบประมาณสักกี่บาทเชียวคุณครู  
     
    By: ครูเซ็ง      (202.29.57.*) 28/04/2011 09:11 AM
 

 
  ความคิดเห็นที่: 5  
     
  การประเมิน รร. เป็นสิ่งดี เพื่อพัฒนาการทำงานของเราเอง แต่เราควรเรียกร้องกับ กระทรวง หรือ สพฐ.ว่าเกณฑ์การประเมินลดลง หรือให้ดูเกณฑ์ตามขนาดของ โรงเรียน เช่น ขนาดเล็กก็อีกแบบ ขนาดกลางก็แบบ ขนาดใหญ่ก็แบบ ไม่ใช่แบบเดียวกัน เด็กอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ เพราะปัจจัยหลายปัจจัย ครอบครัว ระดับสมอง การต่อเนื่อง ฉะนั้นขึ้นอยู่กับเรา (ครู) ที่ต้องพัฒนาเขา เราบอกว่าทำดีที่สุดแล้วตามความคิดเรา เหมือนที่ ร.ร. ครูสอนไปอย่างนั้นตามหนังสือที่ซื้อ เวลาสอบเด็กก็ไปเอาข้อสอบที่ไหนไม่รู้มาสอบเด็ก ซึ่งไม่ตรงที่สอนเด็ก การบ้านก็เอาตามแผ่นซีดีที่ซื้อ ตรวจก็ไม่ตรวจ เด็กไม่ส่งก็ด่า ตี เงินเดือน 2-3 หมื่น เอาเถอะผมว่าเราควรช่วยกันพัฒนาดีกว่า หรือหาวิธีการต่าง ๆ มาพัฒนาเด็กดีกว่า อย่าบ่นเลยครับ..สู้ ๆ ๆ ครับ  
     
    By: ครูน้อย      (202.143.164.*/192.168.100.76) 28/04/2011 09:17 AM
 

 
  ความคิดเห็นที่: 6  
     
  หากการจัดการศึกษาทุกระดับของผู้รับผิดชอบในการจัดการศึกษามีการกำหนดเป้าหมาย ยุทธศาสตร์ ทบทวนภารกิจของบุคคลในสถานศึกษา พร้อมทั้งกำหนดเป้าและตัวบ่งชี้ระดับบุคคลที่ชัดเจน พร้อมทั้งมีระบบการประเมินที่ชัดเจนในโรงเรียน เชื่อมั่นว่านักเรียนคงได้รับการพัฒนาอย่างแน่นอน อยากให้คุณครูมองภาพเชิงบวกไว้ก่อนเพราะจะทำให้เราเกิดพลังในการทำงาน ในขณะเดียวกันหากเรามองภาพเชิงลบจะทำให้เราขาดความมั่นใจในการทำงาน และหากเราได้ทบทวนให้ชัดเจนว่าเราคือใคร เรารู้อะไร เราทำอะไรได้บ้าง แน่นอนที่สุดเราจะมีพลังในการพัฒนาตัวเราในที่สุด และสิ่่งที่เราต้องการคือนักเรียนได้รับการพัฒนารอบด้าน ขอให้กำลังใจทุกคนครับ  
     
    By: ครูเก่า      (223.207.106.*) 30/04/2011 09:23 PM
 


     
 
       
ชื่อ ::
  *
  รหัส ::   (เฉพาะสมาชิก)
 
อีเมล์ ::
  (สมาชิกไม่ต้องกรอก)
     
Insert Bold text Insert Italicized text Insert Underlined text Insert Centered text Insert a Hyperlink Insert Email Hyerplink Insert an Image Insert Code Formatted text Insert Quoted text
 
รายละเอียด ::
  *
  ใส่รูปแสดงอาการ ::   Confused Idea Smile Wink Coool Love It Cry Devil Kiss Yum Big Grin Smiley Razz Brow
Blue Smile Ek Frusty Eek Weird Look Bawling Angry Fire Red Face Eplus Uh Oh Crying Sinister Tongue Roll Eyes
 
รูปประกอบ ::
  ไม่เกิน 50 Kb
       
     
 
     
 
 Search Word:
Support by http://www.sisaketedu1.go.th
This programe support PHP 4, MySQL Developer by NOKESTUDIO In Thailand
NINEBOARD Vol 3.0 Copyright © 2001-2002 NINETO SOLUTION All Rights Reserved.