http://www.sisaketedu1.go.th/ | หน้าแรก
       

ฝึกสมาธิ เจริญปัญญา
     
 

การฝึกสมาธิ
แบบ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

วัดป่าสุทธาวาส ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมือง จ.สกลนคร



การเดินสมาธิหรือเดินจงกรมเหมาะสำหรับคนที่มักมีความคิดฟุ้งมาก พระพุทธองค์กล่าวว่า ประโยชน์ของการเดินจงกรม มีดังนี้คือ

-- ทำให้ร่างกายแข็งแรงไม่เจ็บป่วยง่าย
-- ทำให้ขาแข็งแรงเดินได้ทนและไกล
-- เมื่อทำหลังอาหารทำให้อาหารย่อยง่าย
-- สมาธิที่ได้จากการเดินจงกรมจะอยู่ได้นาน

อิริยาบถนั่งสมาธิ

นั่งขัดสมาธิ เอาขาขวาทับขาซ้าย มือขวาทับมือซ้าย วางลงบนตัก ตั้งกายตรง (ไม่นั่งก้มหน้า ไม่นั่งเงยหน้า ไม่นั่งเอียงซ้าย ไม่เอียงขวา ไม่โยกหน้า ไม่โยกหลัง) ไม่กดและข่มอวัยวะในร่างกาย วางกายให้สบายๆ ตั้งจิตให้ตรง ลงตรงหน้า กำหนดรู้ซึ่งจิตเฉพาะหน้า ไม่ส่งจิตให้ฟุ้งซ่าน ไปในเบื้องหน้า-เบื้องหลัง (อนาคตและอดีต) พึงเป็นผู้มีสติ กำหนดจิตรวมเข้าตั้งไว้ในจิต บริกรรม “พุทโธ”

 
     
      By : คนธรรมดา      (118.175.254.*)  24/04/2011 10:24 AM  
 
 
 
  ความคิดเห็นที่: 1  
     
  สมาธิเพื่อชีวิต

แบบ หลวงพ่อพุธ ฐานิโย วัดป่าสาลวัน อ.เมือง จ.นครราชสีมา

นักเรียน นักศึกษาทำสมาธิในการเรียน

ขณะนี้นักเรียนทั้งหลายกำลังเรียน ปัญหาสำคัญอยู่ตรงที่ว่า ทำอย่างไรเราจึงจะได้พลังของสมาธิ พลังของสติเพื่อสนับสนุนการศึกษา หลวงตาจะสอนวิธีทำสมาธิในห้องเรียน สมมุติว่าขณะนี้หลวงตาเป็น ครูสอนพวกเธอทั้งหลาย ให้พวกเธอทั้งหลายเพ่งสายตามาที่หลวงตา ส่งใจมาที่หลวงตาแล้วก็สังเกตดูให้ดีว่าหลวงตาทำอะไรบ้าง หลวงตายกมือหนูก็รู้ เขียนหนังสือให้หนูรู้ พูดอะไรให้หนูตั้งใจฟัง ถ้าสังเกตจนกระทั่งกระพริบหูกระพริบตาได้ยิ่งดี เวลาเข้าห้องเรียนให้ เพ่งสายตาไปที่ตัวครู ส่งใจไปที่ตัวครู อย่าเอาใจไปอื่น เพียงแค่นี้
วิธีการทำสมาธิในห้องเรียน ถ้าพวกหนูๆ จำเอาไปแล้วปฏิบัติตาม จะได้สมาธิตั้งแต่เป็นนักเรียนเล็กๆ ชั้นอนุบาล

ในตอนแรกนี่ การควบคุมสายตาและจิตไปไว้ที่ตัวครู นี่อาจจะลำบากหน่อย แต่ต้องพยายามฝึก ฝึกจนคล่องตัวชำนิชำนาญ ภายหลังแม้เราจะไม่ตั้งใจ พอเห็นใครเดินผ่านหน้ามันจะจ้องเอาๆ พอมาเข้าห้องเรียนแล้วพอครูเดินเข้ามาในห้อง สายตามันจะจ้องปั๊บ ใจมันก็จะจดจ่ออยู่ตรงนั้น หนูลองคิดดูซิว่า การที่มองที่ครู และเอาใจใส่ตัวครูนี่ เราเรียนหนังสือเราจะเข้าใจดีไหม ลองคิดดู ทีนี้เมื่อฝึกจนคล่องตัวชำนิชำนาญแล้ว สายตามันยังจ้องอยู่ที่ตัวครู
แต่ใจจะมาอยู่ที่ตัวเราเอง มาตอนนี้ครูท่านสอนอะไร พอท่านพูดจบประโยคนั้น ใจของเรารู้ล่วงหน้าแล้วว่าต่อไปท่านพูดอะไร เวลาไปสอบ อ่านคำถามจบ ของเราจะวูบวาบแล้วคำตอบมันจะผุดขึ้น อันนี้เป็นสูตรทำสมาธิ
 
     
    By: คนธรรมดา      (118.175.254.*) 24/04/2011 10:30 AM
 

 
  ความคิดเห็นที่: 2  
     
  วิธีทำสมาธิแบบง่ายๆ

แบบ หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม วัดอัมพวัน ต.พรหมบุรี อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี

ทำสมาธิเพื่อให้จิตสงบ มีพลังมีประโยชน์ในปัจจุบัน คือทำให้ใจสบาย คลายทุกข์ หนักแน่นมั่นคง อารมณ์แจ่มใส ความจำทำงานมีประสิทธิภาพ สุขภาพดี นอนหลับสบาย เรียนหนังสือเก่ง ที่สำคัญคือได้บุญ

วิธีนั่งสมาธิ

ให้นั่งขัดสมาธิ คือขาขวาทับขาซ้าย นั่งตัวตรงหลับตาเอาสติมาจับอยู่ที่สะดือ ที่ท้องพองยุบ เวลาหายใจเข้าท้องพอง กำหนดว่าพองหนอ ใจนึกกับท้องที่พอง ต้องให้ทันกัน อย่าให้ก่อนหรือหลังกัน หายใจออกท้องยุบ กำหนดว่า ยุบหนอ ใจนึกกับท้องที่ยุบ ต้องทันกัน อย่าให้ก่อนหรือหลังกัน ข้อสำคัญให้สติจับอยู่ที่พอง ยุบ เท่านั้น อย่าดูลมที่จมูก อย่าตะเบ็งท้อง ให้มีความรู้สึกตามความเป็นจริงว่า ท้องพองไปข้างหน้า ท้องยุบมาข้างหลัง อย่าให้เห็นเป็นไปว่า ท้องพองขึ้นข้างบน ท้องยุบลงข้างล่าง ให้กำหนดเช่นนี้ตลอดไป จนกว่าจะถึงเวลาที่กำหนด




 
     
    By: คนธรรมดา      (118.175.254.*) 24/04/2011 10:34 AM
 

 
  ความคิดเห็นที่: 3  
     
  หลักการทำสมาธิเบื้องต้น

แบบ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

สมาธินั้น ได้แก่ ความตั้งใจมั่นอยู่ในเรื่องที่ต้องการให้ใจตั้งไว้เพียงเรื่องเดียว ไม่ให้ใจคิดฟุ้งซ่านออกไป นอกจากเรื่องที่ต้องการจะให้ใจตั้งนั้น ความตั้งใจดั่งนี้เป็นความหมายทั่วไปของสมาธิ และก็จะต้องมีในกิจการที่จะทำทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการเล่าเรียนศึกษา หรือว่าการงานอย่างใดอย่างหนึ่ง

ในการเล่าเรียนศึกษา จะอ่านหนังสือก็ต้องมีสมาธิในการอ่าน จะเขียนหนังสือก็ต้องมีสมาธิในการเขียน จะฟังคำสอนคำบรรยายของครูอาจารย์ก็ต้องมีสมาธิในการฟัง ดั่งที่เรียกว่าตั้งใจอ่าน ตั้งใจเขียน ตั้งใจฟัง

ในความตั้งใจดังกล่าวนี้ก็จะต้องมีอาการของกายและใจประกอบกัน เช่นว่าในการอ่าน ร่างกายก็ต้องพร้อมที่จะอ่าน เช่นว่าเปิดหนังสือ ตาก็ต้องดูหนังสือ ใจก็ต้องอ่านด้วย ไม่ใช่ตาอ่านแล้วใจไม่อ่าน ถ้าใจไปคิดถึงเรื่องอื่นเสียแล้ว ตาจับอยู่ที่หนังสือก็จับอยู่ค้างๆ เท่านั้น เรียกว่าตาค้าง จะมองไม่เห็นหนังสือ จะไม่รู้เรื่อง ใจจึงต้องอ่านด้วย และเมื่อใจอ่านไปพร้อมกับตาที่อ่านจึงจะรู้เรื่องที่อ่าน

ความรู้เรื่องก็เรียกว่าเป็นปัญญาอย่างหนึ่ง คือ ได้ปัญญาจากการอ่านหนังสือ ถ้าหากว่าตากับใจอ่านหนังสือไปพร้อมกัน ก็จะอ่านได้เร็ว รู้เรื่องเร็ว และจำได้ดี ใจอ่านนี่แหละคือใจมีสมาธิ คือหมายความว่าใจตั้งอยู่ที่การอ่าน

 
     
    By: คนธรรมดา      (118.175.254.*) 24/04/2011 10:39 AM
 

 
  ความคิดเห็นที่: 4  
     
  สมาธิ
แบบ หลวงปู่คำดี ปภาโส วัดถ้ำผาปู่นิมิตร ต.นาอ้อ อ.เมือง จ.เลย

การฝึกหัดทำสมาธิภาวนานี้ ในตอนแรกๆ จะทำได้ยาก มักจะมีอาการปวดเมื่อยตามแข้งตามขาหรือตามเอวตามหลัง ในตอนแรกๆ นี้จะต้องอาศัยความอดทนและต้องอาศัยความฝืนอยู่มากพอสมควร แต่เมื่อกระทำไปประมาณ ๒-๓ อาทิตย์ ก็จะรู้สึกเคยชิน อาการปวดเมื่อยต่างๆ ก็จะค่อยๆ หายไป เมื่อเรารู้สึกปวดเมื่อยแล้ว ท่านจึงแนะนำให้เปลี่ยนอิริยาบถ จากนั่งสมาธิไปเป็นการเดินจงกรม ซึ่งการกำหนดใจในขณะเดินจงกรมนั้นก็เหมือนกับเรากำหนดเวลาที่เรานั่งสมาธินั่นเอง เพียงแต่ต่างจากการนั่งเป็นการเดินเท่านั้น




 
     
    By: คนธรรมดา      (118.175.254.*) 24/04/2011 10:42 AM
 

 
  ความคิดเห็นที่: 5  
     
  สมาธิเบื้องต้น
แบบ พระธรรมโกศาจารย์
(ท่านเจ้าประคุณพุทธทาส อินทปัญโญ)

ศรีษะตั้งตรงตามองไปที่ปลายจมูกให้อย่างยิ่งจนไม่เห็นสิ่งอื่น จะเห็นอะไร หรือไม่เห็นก็ตามใจ ขอให้จ้องมองเท่านั้น พอชินเข้าจะได้ผลดีกว่าหลับตา และไม่ชวนให้ง่วงนอนได้ง่ายด้วย โดยเฉพาะคนขี้ง่วงให้ทำอย่างลืมตานี้แทนหลับตา ทำไปเรื่อยๆ ตามันจะหลับของมันเอง ในเมื่อถึงขั้นที่มันจะต้องหลับ หรือจะหัดทำอย่างหลับตาเสียตั้งแต่ต้นก็ตามใจ แต่วิธีที่ลืมตานั้นจะมีผลดีกว่าหลายอย่าง แต่ว่าสำหรับบางคนรู้สึกว่าทำยาก โดยเฉพาะพวกที่ยึดถือในการหลับตา ย่อมไม่สามารถทำอย่างลืมตาได้เลย

มือปล่อยวางไว้บนตักซ้อนกันตามสบาย ขาขัดหรือซ้อนกันโดยวิธีที่จะช่วยยันน้ำหนักตัว ให้นั่งได้ถนัดและล้มยาก ขาขัดอย่างซ้อนกันธรรมดาหรือจะขัดไขว้กันนั่นแล้วแต่จะชอบหรือทำได้ คนอ้วนจะขัดขาไขว่กันอย่างที่เรียกว่า ขัดสมาธิเพชรนั้น ทำได้ยากและไม่จำเป็น ขอแต่ให้นั่งคู้ขาเข้ามา เพื่อรับน้ำหนักตัวให้สมดุลล้มยากก็พอแล้ว ขัดสมาธิอย่างเอาจริงเอาจังยากๆ แบบต่างๆ นั้นไว้สำหรับเมื่อจะเอาจริงอย่างโยคีเถิด




 
     
    By: คนธรรมดา      (118.175.254.*) 24/04/2011 10:47 AM
 

 
  ความคิดเห็นที่: 6  
     
  การทำสมาธิ

แบบพระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก วัดป่าสุนันทวนาราม ต.ไทรโยค อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี


นั่งหลับตา ขาขวาทับขาซ้าย มือขวาทับมือซ้าย ตั้งกายให้ตรง ให้ดูพระพุทธรูปเป็นตัวอย่าง นั่งให้สบายๆ พอดีพองาม
หายใจให้สบายๆ กำหนดรู้ลมเข้า ลมออก โดยสม่ำเสมอ
ให้ติดต่อกัน ในเวลานั้น ไม่ต้องคิดอะไร ไม่ต้องทำอะไร
การกำหนดรู้ลมเข้าลมออก เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด อย่างอื่นในโลก
ไม่สำคัญ หน้าที่ของเรามีแค่นี้ ให้เอาใจใส่ทำให้ดีที่สุด







 
     
    By: คนธรรมดา      (118.175.254.*) 24/04/2011 10:49 AM
 

 
  ความคิดเห็นที่: 7  
     
  หลวงปู่,หลวงพ่อ,และพระอาจารย์ที่กล่าวมานี้

ล้วนแต่เป็นตัวอย่างที่ดียิ่ง...ถ้าทุกคนทำได้ อย่างท่าน

ทุกคนก็จะมีสติและมีปัญญา และจิตใจสงบ

ซึ่งจะนำความสุขมาสู่ตน
 
     
    By: คนเมืองดอกบัว      (223.207.106.*) 24/04/2011 11:26 AM
 

 
  ความคิดเห็นที่: 8  
     
  อนุโมทนาค่ะ
กำลังฝึกตนเรื่องสมาธิพอดี ขออนุญาตเก็บไว้อ่านต่อนะค่ะ
__________________
ฝืนใจตัวเองไม่ได้...ดีไม่ได้(หลวงพ่อจรัญฐิตธฺมโม)
 
     
    By: คนไม่สำคัญ      (125.26.78.*) 24/04/2011 01:43 PM
 

 
  ความคิดเห็นที่: 9  
     
  จงเข้าสมาธิความสมควรแก่เวลาที่เอื้อ ไม่ต้องปรารถนาจะเห็น หรือจะได้ จะเป็นอะไรจากการทำสมาธิ และเมื่อ จิตสงบเย็นแล้ว จึงเพ่งพิจารณาชีวิตสิ่งแวดล้อม และปัญหาที่ตัวเองกำลังประสบอยู่แล้ว สรุปว่า สิ่งทั้งหลายเหล่านั้นไม่ควร ยึดมั่นถือมั่นเลย  
     
    By: ธรรมะสวัดี "นู๋พอใจ"      (125.26.78.*) 24/04/2011 01:46 PM
 

 
  ความคิดเห็นที่: 10  
     
  สมาธิ แปลว่า ความตั้งใจมั่นแห่งจิต คือสภาวะแน่วแน่ที่จิตสงบหนึ่ง จับอยู่อารมณ์เดียวที่ถูกต้อง สมาธิจิต เป็นสภาวะจิตที่มีอารมณ์เป็นหนึ่ง คือการที่จิตกำหนดแน่วแน่อยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ไม่ฟุ้งซ่าน ไม่ส่ายไปในอารมณ์ต่าง ๆ คือทำจิตให้สงบจากกาม และอกุศลธรรมทั้งหลาย จิตตั้งมั่นเป็นสมาธิจนบรรลุถึงเอกัคคตา สมาธิแบ่งเป็น ๓ ระดับ คือ
๑. ขณิกสมาธิ คือสมาธิชั่วขณะ ซึ่งคนสามัญทั่วไปสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการปฏิบัติหน้าที่การงานในชีวิตประจำวันให้ได้ผลดี และจะใช้เป็นจุดตั้งต้นในการเจริญวิปัสสนาได้
๒. อุปจารสมาธิ สมาธิเฉียด ๆ หรือจวนจะแน่วแน่ เป็นสมาธิขั้นระงับนิวรณ์ได้ ก่อนที่จะเข้าสู่ภาวะแห่ง ฌาน หรือสมาธิในบุพภาคแห่งอัปปนาสมาธิ
๓. อัปปนาสมาธิ คือสมาธิแนบแน่นสนิท เป็นสมาธิระดับสูงสุด ภาวะนี้มีในฌานขั้นต่าง ๆ และปฏิบัติต่อ ๆ ไปจะทำให้เกิดญาณขึ้นมาได้ ซึ่งเกิดจากผลสำเร็จในการเจริญสมาธิ ภาวะจิตที่มีสมาธิถึงขั้นอัปปนาสมาธิแล้ว เรียกว่า ฌาน


ประโยชน์ของสมาธิ

1. สมาธิจะช่วยให้ท่านกำจัดความเครียด และสามารถผ่อนคลายได้มาก

2. ช่วยระงับความวิตกกังวล และสามารถทำให้ท่านพบกับความสงบสุข

3. สมาธิจะช่วยให้เกิดกำลังใจ เข้มแข็งที่จะเผชิญ และเอาชนะปัญหาต่างๆ ได้

4. สมาธิสามารถช่วยให้เกิดความมั่นใจในตัวเองขึ้นมาได้อย่างมหัศจรรย์

5. สมาธิจะให้โอกาสในการที่จะพัฒนา และรักษาความพอใจไว้ภายในใจได้

6. สมาธิสามารถช่วยให้ข้ามพ้นจากความเป็นคนขี้สงสัย

7. สมาธิช่วยให้เข้าใจได้ถูกว่าสิ่งที่ไม่จำเป็นต่อชีวิต

8. สมาธิจะช่วยให้เป็นคนรวย ตระหนักถึงธรรมชาติของทรัพย์สมบัติ

9. สมาธิจะช่วยให้มีความพอใจ และไม่ก่อให้เกิดความอิจฉาบุคคลอื่น

10. สมาธิจะช่วยให้เข้าใจว่าถนนสายไหนที่ท่านควรเลือกเดิน เพื่อให้ไปถึง
จุดหมายปลายทางที่เหมาะสม

11. สมาธิจะทำให้เข้าใจชีวิตได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

12. สมาธิจะทำให้สามารถพัฒนาพลังที่จะเอาชนะข้อเสีย คือ ความโกรธ
ความเกลียด และความขุ่นเคืองได้

13. สมาธิจะช่วยให้ตระหนักถึงอันตรายของความอิจฉาริษยา

14. สมาธิจะช่วยให้รู้วิธีที่จะเป็นนายของตัณหา ความอยากเหล่านั้นได้

15. สมาธิสามารถทำให้ตระหนักถึงวิธีที่จะเอาชนะนิสัยที่เป็นอันตราย

16. สมาธิจะเปิดโอกาสให้ท่านขัดเกลาความรู้จนสามารถนำไปได้

17. ถ้าได้ปฏิบัติสมาธิอย่างจริงจัง อารมณ์จะไม่มีโอกาสทำให้เป็นคนขุ่นมัว

18. ถ้าเป็นคนฉลาดมีปัญญาบริบูรณ์ สมาธิจะส่งเสริมให้ได้บรรลุธรรมชั้นสูง

19. ถ้าเป็นคนที่มีจิตใจอ่อนแอ สมาธิสามารถทำให้จิตใจของเข้มแข็งขึ้น






















ประโยชน์ของสมาธิ

1. ทำให้คนฉลาด รู้หลักความจริงในชีวิต ให้รู้จักชีวิตประจำวัน
2. ทำคนให้มีศีลธรรมและวัฒนธรรมอันดีงาม
4. ทำให้คนรักใคร่กัน สนิทสนมกลมกลืนกันเหมือนญาติ
5. ทำให้คนมีความเมตตากรุณาและพลอยยินดี เมื่อเห็นคนอื่นได้ดี
6. ทำคนให้เป็นคนดีกว่าคน ให้เด่นกว่าคน ให้เป็นพระ
7. ทำคนไม่ให้เบียดเบียนกัน เว้นจากการเอารัดเอาเปรียบกัน
8. ทำคนให้รู้จักตนเอง และรู้จักปกครองตนเอง
9. ทำคนให้เป็นผู้ว่านอนสอนง่าย ไม่มีมานะถือตัว
10. ทำคนให้เป็นผู้หนักแน่นในกตัญญูกตเวทิตา
11. ทำคนให้มีกาย วาจา ใจ บริสุทธิ์
12. ทำคนให้ได้รับความเจริญรุ่งเรืองวัฒนาสถาพร
13. ทำคนให้พ้นจากความเศร้าโศก ปริเทวนาการ
14. ทำคนให้ดับทุกข์ร้อนทางกาย ทางใจ
15. ทำคนให้เดินทางถูกต้องทุกประการ


ขอขอบคุณข้อมูลทั้งหมด จาก อ.สมเกียรติ นามวงศ์ (ถึงแก่กรรมแล้ว) และ อ.พิกุล นามวงศ์ (ผู้เป็นภรรยา)
 
     
    By: คนธรรมดา      (118.175.254.*) 24/04/2011 02:11 PM
 

 
  ความคิดเห็นที่: 11  
     
  สติ...ปัญญา...สามารถ ทำให้คนรู้จัก คิดดี พูดดี ทำดี คบคนดี ไปสถานที่ดี ขอให้ทำได้อย่างนี้ แล้วชีวิตจะไม่มีปัญหา  
     
    By: ครูคนหนึ่ง      (49.48.84.*) 25/04/2011 04:48 AM
 

 
  ความคิดเห็นที่: 12  
     
  สติ....ปัญญา สามารถ ทำให้เรารักต้วเอง รักคุณพ่อ รักคุณแม่ ทำให้เรารักเพื่อน ทำให้เรารักสมบัติของส่วนรวม ทำให้เรารักประเทศของเรา

ถ้าเรารักสิ่งที่กล่าวมานี้ ปัญหาของสังคมจะไม่มีเลย
 
     
    By: ครู สพป.ศก.1      (223.207.101.*) 25/04/2011 03:32 PM
 

 
  ความคิดเห็นที่: 13  
     
  ก็กำลังฝึกตนเรื่องสมาธิ เป็นการฝึกตนเองในชีวิตประจำวันค่ะ
1.ให้เฝ้าติดตามดูจิต รักษาอารมณ์ให้พอดี ๆ ตามหลักทางสายกลางเมื่อกระทบกับอารมณ์ทีทำให้ไม่พอใจ หรืออารมณ์ที่ทำให้พอใจพยายามรักษาใจให้เป็นปกติ ไม่แสดงออกจนเกินไป
2. ฝึกหัดหายใจให้ยาวขึ้นกว่าปกติ การหายใจยาว แสดงถึง ความมีสุขภาพกาย และสุขภาพใจที่ดี และจะทำให้รู้สึกตัวชัดเจน ทั้งยังช่วยให้จิตใจสงบ ร่างกายสบาย
3. คิดดี พูดดี และทำดี อย่างมีสติ และมีสาระ คือ คิดให้รอบคอบ คิดให้ดีก่อนที่จะพูด และคิดให้ดีก่อนที่จะทำ
4. ช่วงเวลาก่อนนอน 10-20 นาที ควรจักทบทวนชีวิตตั้งแต่ตื่นนอนในตอนเช้าเป็นต้นมา จนถึงเวลานี้ มีเรื่องที่ทำให้เราพอใจ และไม่พอใจอะไรบ้าง ที่มากระทบอารมณ์ของเรา ให้ตั้งสติทบทวนดู เพื่อจะได้เป็นบทเรียนไว้แก้ไขปรับปรุงตัวต่อไป ไม่ให้ผิดพลาดอีก แล้วพยายามปล่อยวางเสีย เพราะอดีตผ่านไปแล้ว แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว
5. ก่อนนอน จะนั่งหรือจะนอนก็ได้ นับลมหายใจเข้าออก โดยหายใจ ลึก ๆ นับ 1 – 20 (หายใจเข้า 1 ครั้ง และหายใจออก 1 ครั้ง นับ 1 ในใจ) อย่างต่อเนื่อง หากลืมไม่รู้นับถึงไหนแล้ว ให้ขึ้นต้นใหม่ ทำ 3 รอบติดต่อกัน (หากทำไม่ได้ ก็ทำเท่าที่ ทำได้ และวันต่อไปให้พยายามทำใหม่) (จะชอบทำเวลาเครียด)
6. หมั่นนั่งสมาธิเป็นประจำ จะช่วยให้ใจสงบ และเพิ่มความมีสติระลึกรู้ได้เป็นอย่างดี

"สติทำให้เป็นคนสงบเย็น เพื่อน บริวาร และบุคคลอื่น อยากเข้าใกล้"
 
     
    By: คนไม่สำคัญ      (113.53.74.*) 25/04/2011 10:20 PM
 

 
  ความคิดเห็นที่: 14  
     
  คนที่มีจิตใจที่สงบ.....คือคนที่มีความสุขที่แท้จริง

 
     
    By: คนเมืองดอกบัว      (49.48.87.*) 26/04/2011 05:33 AM
 

 
  ความคิดเห็นที่: 15  
     
  สมาธฺิเกิดขึ้นได้ทุกเวลาทุกสถานที่เพียงแต่ขอให้ใจจดจ่ออยู่กับสิ่งที่ทำอยู่ เช่นการอ่านหน้งสือคุมใจให้อยู่กับหนังสือที่วางอยู่ข้างหน้าไม่คิดเรื่องอื่นสมาธิก็เกิดได้  
     
    By: อยากบอก      (182.232.70.*) 26/04/2011 06:29 AM
 


     
 
       
ชื่อ ::
  *
  รหัส ::   (เฉพาะสมาชิก)
 
อีเมล์ ::
  (สมาชิกไม่ต้องกรอก)
     
Insert Bold text Insert Italicized text Insert Underlined text Insert Centered text Insert a Hyperlink Insert Email Hyerplink Insert an Image Insert Code Formatted text Insert Quoted text
 
รายละเอียด ::
  *
  ใส่รูปแสดงอาการ ::   Confused Idea Smile Wink Coool Love It Cry Devil Kiss Yum Big Grin Smiley Razz Brow
Blue Smile Ek Frusty Eek Weird Look Bawling Angry Fire Red Face Eplus Uh Oh Crying Sinister Tongue Roll Eyes
 
รูปประกอบ ::
  ไม่เกิน 50 Kb
       
     
 
     
 
 Search Word:
Support by http://www.sisaketedu1.go.th
This programe support PHP 4, MySQL Developer by NOKESTUDIO In Thailand
NINEBOARD Vol 3.0 Copyright © 2001-2002 NINETO SOLUTION All Rights Reserved.