รายงานการประชุมคณะกรรมการบริหารชมรมครูประชาบาลภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ชุดที่ ๒๑)
ครั้งที่ ๒/๒๕๕๓
วันอาทิตย์ที่ ๑๗ ตุลาคม ๒๕๕๓
ณ ห้องประชุมสหกรณ์ออมทรัพย์ครูยโสธร จังหวัดยโสธร
........................................
ระเบียบวาระที่ ๑ ประธานแจ้งให้ทราบ
๑.๑ นายนิสิต รังษี อดีตประธานชมรมครูประชาบาลภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นประธานการประชุม กล่าวว่า การบ้านร่วมกันของชมรมครูประชาบาลภาคตะวันออกเฉียงเหนือในยุคนายประวิทย์ บึงไสย เป็นประธาน คือ การเปิดการศึกษาภาคบังคับในโรงเรียนประถมศึกษาทุกโรงเรียน หากทุกคนร่วมมือกันอย่างเข้มแข็ง การกลับมาเป็นเสืออีกครั้งก็มีความเป็นไปได้สูง ขอขอบคุณอดีตผู้นำครูที่ยังมาให้กำลังใจอย่างเสมอต้นเสมอปลาย
๑.๒ นายประวิทย์ บึงไสย ประธานชมรมครูประชาบาลภาคตะวันออกเฉียงเหนือรับมอบของที่ระลึกจากนายวรชัย บุตรสิงห์ ประธานชมรมครูจังหวัดยโสธร แนะนำผู้นำครูของจังหวัดยโสธร และนายปรีดา บุญเพลิง ประธานมูลนิธิครูประชาบาลภาคตะวันออกเฉียงเหนือ(หลวงพ่อคูณอุปถัมป์) ที่มาร่วมประชุมในครั้งนี้ด้วย
ระเบียบวาระที่ ๒ เรื่องรับรองรายงานการประชุมครั้งที่แล้ว(ครั้งที่ ๑/๒๕๕๓ วันอาทิตย์ที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๕๓ ณ โรงแรมอุดรโฮเต็ล อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี
มติที่ประชุม : รับรอง
ระเบียบวาระที่ ๓ เรื่องเสนอเพื่อทราบ
๓.๑ การแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อรับผิดชอบฝ่ายต่าง ๆ ตามข้อบังคับชมรมฯ ข้อ ๑๙ และโครงสร้างการบริหารงานชมรมครูประชาบาลภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ชุดที่ ๒๑ (๒๕๕๓ – ๒๕๕๕) ในส่วนที่เป็นกรรมการจากจังหวัดศรีสะเกษ มีดังนี้
๓.๑.๑ ฝ่ายบริหาร
๑.นายวิทยา พันธุเพ็ง รองประธานชมรมภาคฯ
๓.๑.๒ ฝ่ายทะเบียน
๑.นายเด่นชัย เขตสกุล
๒.นายศิริพงษ์ เสนาะ
๓.๑.๓ ฝ่ายจัดหาทุน
๑.นายวิสัย เขตสกุล
๒.นายเอกอมร ใจจง
๓.๑.๔ ฝ่ายประชาสัมพันธ์
๑.นายอิสระชน นันทบัน
๒.นายนิพนธ์ สมหมาย
๓.นายทองหล่อ สิงห์คง
๓.๑.๕ ฝ่ายการเงินและพัสดุ
๑.นายสุพจน์ เจริญกิจ
๓.๑.๖ ฝ่ายต่างประเทศ
๑.นายอรุณ พรหมคุณ
๒.นายเกียรติคุณ สืบหล้า
๓.๑.๗ ฝ่ายนโยบายและแผน
๑.นายสุวิทย์ สมบัติ
๒.นายวิชัยทรรศน์ แก้วภักดี
๓.๑.๘ ฝ่ายสารนิเทศ
๑.นายสุนทร กุมรีจิตร
๓.๑.๙ ฝ่ายสวัสดิภาพและสวัสดิการ
๑.นายทำนุ ไพศาลสุวรรณ
๓.๑.๑๐ ฝ่ายกฎหมาย
๑.นายอุดม โพธิ์ชัย
๓.๑.๑๑ ฝ่ายพัฒนาวิชาชีพ
๑.นายสมคิด ใจมนต์
๓.๑.๑๒ ฝ่ายกิจกรรม
๑.นายธณัท บุญชูวิสิฐ
๓.๑.๑๓ ฝ่ายประเมินผล
๑.นายไพรัตน์ สฤษดิ์ไพศาล
๓.๑.๑๔ ฝ่ายประสานงาน
๑.นายวิทยา พันธุ์เพ็ง
๓.๑.๑๕ ที่ปรึกษาฝ่ายบริหาร
๑.นายนิสิต รังษี
๒.นายสุริชัย คำศรี
๓.๑.๑๖ ที่ปรึกษาฝ่ายสวัสดิการและสวัสดิภาพ
๑.นายสนอง ทาหอม
๓.๑.๑๗ ที่ปรึกษาฝ่ายพัฒนาวิชาชีพ
๑.นายเดชา ทองสุวรรณ
๓.๑.๑๘ ที่ปรึกษาฝ่ายจัดหาทุน
๑.นายพัฒนศักดิ์ พรหมภา
๒.นายสมชาย วัฒนอมรเกียรติ
๓.นายดุสิต สมศรี
๓.๒ เรื่อง การติดตาม (ร่าง) แก้ไข พรบ. บัญชีเงินเดือนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ฉบับที่...) พ.ศ.....................
สืบเนื่องจากการที่ ก.พ. ได้ปรับปรุงโครงสร้างตำแหน่งและบัญชีเงินเดือน ตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๒ และข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับ ก.พ. ได้เลื่อนขั้นเงินเดือนตามโครงสร้างเงินเดือนใหม่ไปแล้วจำนวน ๓ ครั้ง แต่ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาและข้าราชการกลุ่มอื่น ๆ ยังไม่ได้ปรับโครงสร้างเงินเดือน ทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบ เหลื่อมล้ำไม่เป็นธรรมในระบบราชการ
คณะกรรมการบริหารชมรมครูประชาบาลภาคตะวันออกเฉียงเหนืออนุมัติเป็นหลักการให้ดำเนินการติดตามความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับ(ร่าง)แก้ไข พรบ. บัญชีเงินเดือนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ฉบับที่.....) พ.ศ..........อย่างต่อเนื่อง และเมื่อวันอังคารที่ ๒๑ กันยายน ๒๕๕๓ คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบรับ (ร่าง) แก้ไข พรบ. บัญชีเงินเดือนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ฉบับที่......) พ.ศ.......... เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนการแก้ไขกฎหมายต่อไป ขณะนี้อยู่ระหว่างประสานงานวิปทั้งสองฝ่าย เพื่อเข้าสภา คาดว่าน่าจะ ๓ วาระรวดทั้งสองสภา นายกรัฐมนตรีให้ความมั่นใจว่า จะเสร็จทันวันที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๓
บัญชีโครงสร้างเงินเดือน เปลี่ยนจากปัจจุบันภาพรวม ๘% ไม่ได้หมายความว่าได้คนละ ๘% แต่ขยับฐานล่างขยายฐานบน มีผลกับทุก ๆ คน
๑ เมษายน ๒๕๕๔ ขึ้นเงินเดือน ๕% ทุกคน การเลื่อนเงินเดือนจะเหมือนข้าราชการพลเรือน คำว่า ๘% คือไม่มีขั้น ขั้นเงินเดือนอยู่กับตัวเอง ให้ขึ้นได้ไม่เกิน ๖% ครึ่งปีละ ๓% ครูในวันที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๔ ยังไม่มั่นใจว่า จะเลื่อนเงินเดือนเป็นขั้นหรือเป็นเปอร์เซ็นต์ โดยที่เลื่อนเป็นเปอร์เซ็นต์ไม่มีโควตา แต่ถ้าเลื่อนเป็นขั้นต้องไม่เกินโควตา ๑๕%
ที่ประชุม : รับทราบ
๓.๓ เรื่อง การติดตาม (ร่าง) แก้ไข พรบ.กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (ฉบับที่...) พ.ศ.....
สรุปประเด็นการพิจารณา(ร่าง) พรบ.กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (ฉบับที่...) พ.ศ.....
ในคราวประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๓ ปีที่ ๓ ครั้งที่ ๑๔ (สมัยสามัญนิติบัญญัติ) วันพุธที่ ๒๙ กันยายน ๒๕๕๓ ที่ประชุมได้พิจารณา (ร่าง) พรบ.กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (ฉบับที่...) พ.ศ..... กรณีวุฒิสภาแก้ไขเพิ่มเติมร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว โดยเพิ่มมาตรา ๓/๑ ให้ยกเลิกความในมาตรา ๖๓ แห่ง พรบ.กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ. ๒๕๓๙ และให้ใช้ข้อความต่อไปนี้แทน
“มาตรา ๖๓ การคำนวณบำเหน็จบำนาญให้คำนวณจากอัตราเงินเดือนเฉลี่ยยี่สิบสี่เดือนสุดท้ายคูณด้วยเวลาราชการ หารด้วยห้าสิบ แต่ต้องไม่ต่ำกว่าร้อยละเก้าสิบห้าของอัตราเงินเดือนเฉลี่ยยี่สิบสี่เดือนสุดท้าย”
โดยที่ประชุมมีมติไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขเพิ่มเติมของวุฒิสภา และตั้งบุคคลประกอบเป็นคณะกรรมิการร่วมกันเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (ฉบับที่...) พ.ศ...สภาละ ๑๑ คน รวม ๒๒ คน ฝ่ายสภาผู้แทนราษฎร จำนวน ๑๑ คน หนึ่งในนั้น คือ นายประวิทย์ บึงไสย์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านชัยพรมิตรภาพที่ ๖๗ และประธานชมรมครูประชาบาลภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ***ส่วนพรรคเพื่อไทย
นายประวิทย์ บึงไสย์ กรรมาธิการเปิดเผยว่า ในการประชุมกรรมาธิการร่วมครั้งแรก ที่ประชุมมีความเห็นแตกออกเป็น ๒ ฝ่าย คือ ๑. ฝ่ายที่เห็นว่ากฎหมายไม่เป็นธรรมถ้าแก้ไขกฎหมาย ๒. ฝ่ายที่เห็นว่าถึงกฎหมายไม่เป็นธรรม การแก้ไขต้องเป็นไปตามหลักนิติบัญญัติ ประธานกรรมาธิการร่วม (นายถาวร ลีนุตพงษ์ สมาชิกวุฒิสภาสรรหา ภาคเอกชน) สรุปผลการประชุมว่า ขอปรึกษาในการประชุมครั้งต่อไป วันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๕๓ จะเชิญ รมว.คลัง อธิบดีกรมบัญชีกลาง เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา และเลขาธิการ กบข. มาชี้แจง
๓.๔ เรื่องจากสมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทย (ส.ค.ท.)
การขับเคลื่อนองค์กรวิชาชีพ
๓.๔.๑ การทำให้องค์กรมีความเข้มแข็งไปสู่อนาคตให้ต่อเนื่อง เชื่อมสัมพันธ์กับกฎหมายหลักทั้ง ๓ ฉบับ
๓.๔.๒ การมีส่วนร่วมในการปฏิรูปการศึกษารอบที่ ๒ ในฐานะองค์กรวิชาชีพว่าจะร่วมกับภาคสังคมและภาคการเมืองได้อย่างไร โดยเฉพาะการลดความแตกแยกในสังคม
๓.๕ เรื่องจากคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.)
๓.๕.๑ กรอบอัตรากำลังใน สพม. เขตละ ๖๕ คน
๓.๕.๒ การแต่งตั้ง ผอ.สพม. จะดำเนินการย้ายก่อนแล้วค่อยบรรจุแต่งตั้ง
๓.๖ เรื่องจากคุรุสภา
๓.๖.๑ กระบวนการพัฒนาครู คาดว่าคณะกรรมการคุรุศึกษาแห่งชาติจะเกิดภายใน ๑ ปี จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อคุรุสภา ก.ค.ศ. และ สพฐ.
๓.๖.๒ การสมัครและขอรับเงินอุดหนุนจากคุรุสภา ปีนี้อนุมัติงบไว้แล้ว ๑๐ ล้านบาท
๓.๖.๓ งานวันครูปีนี้จะจัดให้ยิ่งใหญ่ จะเชิญผู้นำครูส่วนภูมิภาคไปร่วมงานด้วย จัดงบประมาณสนับสนุนการจัดงานอำเภอละ ๕,๐๐๐ บาท
๓.๖.๔ ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูที่ขอต่อทางเว็บไซด์หรือ อีเมล์ พบว่ามีปัญหามาก เพราะไม่มีข้อมูล ควรใช้ Pay At Post กรอกข้อมูลเพื่อขออนุญาตใหม่
๓.๖.๕ กรรมการคุรุสภาเขตพื้นที่ ผ่านมติบอร์ดบริหารแล้ว จำนวนกรรมการเขตพื้นที่ละ ๙ - ๑๕ คน ตาม***ส่วนที่กำหนด ในส่วนของผู้แทนครู ผู้บริหารประถม – มัธยม รวม ๖ คน
ข้อฝาก ให้คุรุสภาเป็นที่พึ่งของครู อย่าปล่อยให้ครูโดดเดี่ยว (สก.สค.มีทนายให้)
๓.๗ เรื่องจาก สก.สค.
เงินกู้ ช.พ.ค. ดำเนินการตามกรอบเงื่อนไขโดยไม่มีระยะเวลา ดอกเบี้ยไม่เกิน ๕.๓๕ การค้ำประกันสินเชื่อเป็นไปตามความสมัครใจ
๓.๘ เรื่องจากมูลนิธิครูประชาบาลภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (หลวงพ่อคูณอุปถัมป์)
ในปี ๒๕๓๗ ได้ขออนุญาตหลวงพ่อคูณสร้างเหรียญรุ่น “กูช่วยครู” จำนวน ๑๐๐,๐๐๐ เหรียญ ขณะนี้มูลนิธิมีเงิน ๓ บัญชี ดังนี้
๑. บัญชีสำหรับโอนเงินค่าบูชาเหรียญ จำนวน ๗๗,๕๔๔ บาท
๒. บัญชีเงินฝากประจำ จำนวน ๒,๖๒๔,๔๐๑.๖๐ บาท
๓. ดอกเบี้ยเงินฝากประจำจาก บช.๒ จำนวน ๓,๔๗๗.๖๐ บาท
ขณะนี้มีเหรียญหลวงพ่อคูณรุ่นดังกล่าวคงเหลือประมาณ ๓๐,๐๐๐ เหรียญเศษ ให้คณะกรรมการบริหารชมรมครูภาคฯ ไปช่วยกันคิดว่าจะบริหารจัดการอย่างไร และขอให้ส่งรายชื่อกรรมการไปเป็นกรรมการบริหารมูลนิธิจังหวัดละ ๑ คนพร้อมสำเนาบัตรประจำตัวและทะเบียนบ้านให้ประธนมูลนิธิ(นายปรีดา บุญเพลิง)
ระเบียบวาระที่ ๔ เรื่องเสนอเพื่อพิจารณา
๔.๑ เรื่อง การคัดเลือกสมาชิกเข้าร่วมประชุมสภาครูอาเซียน ครั้งที่ ๒๖ ที่อ่าวซูริค ประเทศฟิลิปปินส์ ระหว่างวันที่ ๙ - ๑๓ ธันวาคม ๒๕๕๓ ประเทศไทยได้รับโควตา ๒๐๐ คน ค่าใช้จ่ายต่อคน ๒๕,๐๐๐ บาท ชมรมครูประชาบาลภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้รับโควตา ๘ คน นายวิทยา พันธุ์เพ็ง เป็นตัวแทนจังหวัดศรีสะเกษเข้าร่วมประชุม
๔.๒ เรื่อง การจัดหาทุนเพื่อกรบริหารจัดการของชมรมครูประชาบาลภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นายประวิทย์ บึงไสย์ ประธานชมรมฯ บริจาค ๑,๐๐๐ บาท/เดือน นายทำนุ ไพศาลสุวรรณ กรรมการฝ่ายสวัสดิการและสวัสดิภาพ บริจาค ๑,๐๐๐ บาท/เดือน นอกนั้นขออนุมัติในหลักการว่า จะขอรับบริจาคจาก ผอ.สก.สค., สอ.ครู, ธ.ออมสิน
๔.๓ การเสนอรายชื่อบุคคลเพื่อเป็นคณะกรรมการบริหารสมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทย (ส.ค.ท.) ในส่วนจังหวัดศรีสะเกษ มีดังนี้ ๑.นายวิทยา พันธุ์เพ็ง ๒.นายสุนทร กุมรีจิตร ๓.นายสนอง ทาหอม ๔.นายทำนุ ไพศาลสุวรรณ
๔.๔ เรื่อง การก่อตั้งสหพันธ์องค์กรครูอีสาน
ชมรมครูประชาบาลภาคตะวันออกเฉียงเหนือขอดำเนินการภายใต้ความเป็นอิสระอย่างที่เคยเป็นมา
๔.๕ เรื่อง การเสวนาเรื่อง “การปฏิรูปการศึกษารอบสอง กับการศึกษาภาคบังคับเพื่อพลเมืองไทย”
หลักเกณฑ์การย้ายผู้บริหารสถานศึกษา ปี ๒๕๔๙ ทำให้ต้องคิดและตั้งองค์กรนี้ ได้นำเรื่องขึ้นสู่ศาลปกครองแต่ไม่มีคำสั่งใด ๆ ออกมา จากการสำรวจข้อมูลพบว่า ขณะนี้ใน สพฐ. มีโรงเรียนขยายโอกาส ที่จัดการเรียนการสอนตั้งแต่อนุบาลถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ถึง ๗,๐๐๐ โรงเศษ จึงขอให้มีสำนักการศึกษาภาคบังคับขึ้นใน สพฐ. เพื่อประโยชน์ในการจัดสรรงบประมาณ การจัดตั้งก็ไม่ยุ่งยากเพราะเป็นเพียงกฎกระทรวงเท่านั้น
ระเบียบวาระที่ ๕ เรื่องอื่น ๆ
๕.๑ โครงการนักเรียน ๑ บาท ครู ๑๐ บาท ร่วมทุนเพื่อพ่อครูแห่งแผ่นดิน เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ขณะนี้กำลังหาทางออกและหลักคิดที่จะให้มีความเหมาะสมไม่ได้เพิกเฉย
หมายเหตุ
๕.๒ เรื่อง การพิจารณาเงินเดือนสำหรับข้าราชการครูที่ยังไม่ได้ ๑.๕ ขั้น(ทั้งปี) ของข้าราชการครูสังกัดสพฐ.ซึ่งมีสาเหตุมาจากเม็ดเงินไม่เพียงพอ มีผู้สงสัยว่าทำไม สพฐ. ไม่รับผิดชอบเม็ดเงินเหมือนที่ผ่านมา จากการสอบถามทราบว่า สพฐ.ได้รับการท้วงติงจากบางโรงเรียนว่าในเมื่อคะแนนประเมินไม่ถึงแล้วทำไมต้องบังคับให้ทุกคนต้องได้อย่างน้อย ๑.๕ ขั้น(ทั้งปี) ปีนี้ สพฐ.จึงไม่ให้เม็ดเงินมา แต่ให้ สพท.รวบรวมจำนวนข้าราชการครูที่ยังไม่ได้เลื่อนเงินเดือน ๑.๕ ขั้น(ทั้งปี) และมีคะแนนประเมินถึงส่งรายงานไปยัง สพฐ. และคาดว่า สพฐ.จะจัดสรรเม็ดเงินมาให้สำหรับผู้ที่เข้าเกณฑ์ดังกล่าว โปรดติดตามความคืบหน้าต่อไป


วิทยา พันธุ์เพ็ง
ประธานชมรมครูประถมศึกษาจังหวัดศรีสะเกษ
รองประธานชมรมครูประชาบาลภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
รายงาน