ศ.ดร.สมหวัง พิธิยานุวัฒน์ รองประธานมูลนิธิสถาบันวิจัยพัฒนาคุณภาพ ในฐานะหัวหน้าคณะนักวิจัยโครงการวิจัยการจัดระดับคุณภาพเขตพื้นที่การศึกษา เปิดเผยว่า ตามที่ พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ กำหนดให้กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กระจายอำนาจการบริหารการจัดการศึกษาทั้ง 4 ด้าน คือ วิชาการ งบประมาณ การบริหารงานบุคคล และการบริหารทั่วไป ให้คณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และสถานศึกษาโดยตรง อีกทั้งกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการกระจายอำนาจการบริหารและการจัดการศึกษาให้คณะกรรมการเขตพื้นที่ฯ และสถานศึกษาโดยยึดหลักด้านความพร้อมและความเหมาะสมนั้น สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) ได้มอบหมายให้คณะผู้วิจัยทำการวิจัยจัดระดับคุณภาพเขตพื้นที่ฯ เพื่อนำไปสู่การกระจายอำนาจให้เขตพื้นที่ฯ อย่างเหมาะสมกับระดับคุณภาพหรือความพร้อมของเขตพื้นที่ฯ นั้น ๆ
ศ.ดร.สมหวัง กล่าวต่อไปว่า จากการวิจัยพบว่า มีเขตพื้นที่ฯ ระดับปานกลาง หรือ เกรดซี จากการประเมินแบบอิงเกณฑ์ 114 เขต คิดเป็น 61.62% แบบอิงกลุ่มมี 73 เขต คิดเป็น 39.46% คือ มีความพร้อมบางเรื่อง ต้องได้รับการมอบอำนาจเฉพาะเรื่องที่พร้อม โดยกำกับดูแลอย่างใกล้ชิดและพัฒนาสู่คุณภาพระดับเกรดบี และมีเขตพื้นที่ฯ ที่มีคุณภาพระดับต่ำ หรือเกรดดี จากการประเมินแบบอิงเกณฑ์ 55 เขต คิดเป็น 29.73% แบบอิงกลุ่ม 98 เขต คิดเป็น 52.97% และเมื่อวิเคราะห์โดยการจำแนกกลุ่ม พบว่า มีเขตพื้นที่ฯ ที่มีอยู่ในระดับต่ำถึง 75 เขต คิดเป็น 40.54% ทั้งนี้ได้มีการเสนอผลการวิจัยพร้อมข้อเสนอแนะเชิงนโยบายต่อ สกศ.เรียบร้อยแล้ว.
ที่มา: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
|